วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556

นครศรีฯ ต้อนรับคณะทูตานุทูต ตาม “โครงการวัฒนธรรมสัญจรแหล่งมรดกโลก”



คณะทูตานุทูตลงพื้นที่นครศรีธรรมราช เยี่ยมชมแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม และพระบรมธาตุ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ตามโครงการวัฒนธรรมสัญจรแหล่งมรดกโลก
      
       วันที่ 16 ส.ค.56 จังหวัดนครศรีธรรมราช รับคณะทูตานุทูต ตามโครงการวัฒนธรรมสัญจรแหล่งมรดกโลกระหว่างวันที่ 16-17 สิงหาคม 2556 ในการเยี่ยมชมพระบรมธาตุ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แหล่งมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับการขึ้นบัญชีเบื้องต้น ในการเสนอเป็นแหล่งมรดกโลก โดยกระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดโครงการวัฒนธรรมสัญจรแหล่งมรดกโลกสำหรับทูตานุทูต ณ จังหวัดนครศรีธรรมราช
      
       นำโดย นายอดิศักดิ์ เบญจศิริวรรณ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม และ น.ส.จันทร์สุดา รักษ์พลเมือง รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม โดยมีเอกอัครราชทูต พร้อมภริยา เลขานุการเอกอัครราชทูต จาก 27 ประเทศ พร้อมผู้บริหาร เจ้าหน้ากระทรวงวัฒนธรรม และสื่อมวลชน รวมจำนวน 65 คน
      
       เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แหล่งมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับการขึ้นบัญชีเบื้องต้น (Tentative List) แห่งใหม่ในประเทศไทย คือ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการดำเนินการจัดทำเอกสารทางวิชาการเพื่อประกอบการเสนอเป็นแหล่งมรดกโลกในอนาคต ให้เป็นที่ประจักษ์แก่ทูตานุทูต และก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในการจัดการแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม ซึ่งจะเป็นแหล่งมรดกโลกในอนาคต ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่ยั่งยืนต่อไป
      
       คณะเดินทางถึงท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เวลา 08.00 น. จากนั้นเดินทางไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เมืองนครศรีธรรมราช พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปประวัติจังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นเวลา 14.00 น. เดินทางไปเยี่ยมชมกลุ่มหัตถกรรมพื้นบ้านคีรีวง อ.ลานสกา และเวลา 18.00 น. งานเลี้ยงรับรองพร้อมชมการแสดงทางวัฒนธรรม ณ ห้องบงกชรัตน์ โรงแรมทวินโลตัส โดยมี นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธาน มีผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนภาคเอกชนร่วมให้การต้อนรับ
      
       นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า ในวันรุ่งขึ้น (17 ส.ค.) คณะทูตานุทูตเข้าเยี่ยมชมพระบรมธาตุ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร พร้อมทั้งรับฟังบรรยายสรุปถึงความคืบหน้าในการจัดทำเอกสารทางวิชาการเพื่อประกอบการเสนอเป็นแหล่งมรดกโลกในอนาคต รวมทั้งการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เกี่ยวกับการเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน พร้อมร่วมริ้วขบวนแห่ผ้าพระบฏ นำห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา แล้วเดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์หัตถกรรมและสินค้าพื้นเมือง (ร้านศรีนคร) เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านหนังตะลุงสุชาติ ทรัพย์สิน แล้วเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
      
       ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นับเป็นโอกาสอันดีที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จะได้นำเสนอถึงความสำคัญของวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งแรกของภาคใต้ ที่เสนอต่อศูนย์มรดกโลก องค์การยูเนสโก ซึ่งได้ขึ้นไว้ในบัญชีเบื้องต้นแล้ว แก่คณะทูตานุทูตในครั้งนี้ ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวต่างประเทศ ว่า หลักเกณฑ์การขึ้นมรดกโลก ของวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จำนวน 3 ข้อ มีอะไรบ้าง
      
       คือ ข้อที่ 1 การเป็นตัวแทนในการแสดงผลงานชิ้นเอกที่จัดทำขึ้นด้วยการสร้างสรรค์อันชาญฉลาดของมนุษย์ ข้อที่ 2 เป็นอิทธิพลยิ่ง ผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใดๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม
      
       และข้อที่ 6 มีความคิด หรือความเชื่อที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์ หรือมีความโดดเด่นยิ่งในประวัติศาสตร์ รวมทั้งจะได้รับฟังข้อเสนอแนะจากคณะทูตานุทูตในการนำมาปรับปรุงแก้ไขในด้านต่างๆ ต่อไป ซึ่งจะส่งผลดีต่อการนำเสนอให้วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น


ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ช่างสิบหมู่กรมศิลปากรตรวจสอบกลีบบัวทองคำองค์พระบรมธาตุแล้ว



ทีมช่างสิบหมู่กรมศิลปากร เข้าตรวจสอบกลีบบัวทองคำ องค์พระบรมธาตุเจดีย์แล้ว เบื้องต้นพบความเสียหายจากโครงเหล็กที่ถูกนำไปติดตั้งภายหลัง และการผุกร่อนของทองคำบางส่วน
      
       เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ส.ค.56 นายอาณัฐ บำรุงวงศ์ ผอ.สำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช ได้นำคณะกรรมการช่างสิบหมู่ในส่วนของกลุ่มงานโลหะและกลุ่มงานประณีตศิลป์ กรมศิลปากรเข้านมัสการพระเทพวินยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ฝ่ายธรรมยุติ เพื่อเข้าชี้แจงแนวทางในการตรวจสอบกลีบบัวคว่ำหงายทั้ง 60 กลีบ และปลียอดทองคำบนองค์พระบรมธาตุเจดีย์
      
       โดยเมื่อได้เวลาฤกษ์ เจ้าหน้าที่ช่าง 10 หมู่ นายธีรชัย จันทรังษี หัวหน้ากลุ่มงานช่างโลหะ สำนักงานช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ได้นำทีมช่างสิบหมู่ ทั้งจากกลุ่มงานโลหะ และกลุ่มงานประณีตศิลป์ สักการะขอขมาองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช ก่อนปีนขึ้นไปยังโครงเหล็กนั่งร้าน ตรวจสอบกลีบบัวทองคำที่พบร่องรอยความเสียหายจากการตรวจสอบในระยะไกลก่อนหน้านี้ และเมื่อขึ้นไปตรวจสอบอย่างใกล้ชิดพบว่า จุดที่มีความเสียหายนั้นเกิดจากการนำเอาโครงเหล็กธรรมดายึดรอกเหล็กสำหรับชักรอกนำไฟขึ้นไป
      
       ทั้งที่ภายหลังจากการบูรณะครั้งใหญ่เมื่อกว่า 25 ปีก่อน ช่างจากกรมศิลปากรไม่อนุญาต และไม่เห็นชอบให้นำวัตถุโลหะแปลกปลอมอื่นใดขึ้นไปติดตั้ง แต่ปรากฏว่า ถูกนำขึ้นไปติดตั้งหลังจากที่มีการบูรณะเสร็จสิ้น และยังไม่มีการรื้อนั่งร้านออกไป ซึ่งสนิมจากโครงเหล็กดังกล่าวได้กัดกร่อนอย่างรุนแรง และได้แผ่ขยายเป็นวงกว้าง คราบสนิมเยิ้มลงมาเปื้อนเนื้อทองคำจนสร้างความเสียหาย และเยิ้มออกมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปล้องไฉนที่มองเห็นได้จากระยะไกล
      
       ขณะที่เนื้อทองคำกลีบบัวคว่ำบัวหงายบางส่วนชำรุดจากแรงลม และผุกร่อน รวมทั้งตะปูที่ยึดทองคำซึ่งพบว่ามีการใช้ตะปูเหล็กเป็นสนิมแทบทั้งหมด ทำให้การยึดหลุดไปบางส่วน อัญมณีขนาดใหญ่ที่ประดับหลุดหายไปหลายเม็ด โดยเฉพาะแถวประดับอัญมณีชั้นล่างสุด โดยในวันพรุ่งนี้ (2 ส.ค.) ทีมช่างสิบหมู่จะขึ้นทำความสะอาดทองคำ เพื่อตรวจสอบความชัดเจนอีกครั้งร วมทั้งปลดเอาโครงเหล็กออกทิ้ง
      
       นายธีรชัย จันทรังษี หัวหน้ากลุ่มงานโลหะ ช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร เปิดเผยว่า ในส่วนของทองคำนั้น กรมศิลปากรได้หลอมทองเก่ามาทำเป็นกลีบบัวทองคำ และทองใหม่นั้นประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์โดยประมาณ ซึ่งหากมีเปอร์เซ็นต์สูงนั้น ทองจะเสียรูปทรงง่าย การสุกประกายของทองนั้นหากเปอร์เซ็นต์สูงจะไม่เงาที่ควร แต่ถ้าอยู่ที่ 85 เปอร์เซ็นต์จะสุกปลั่ง
      
       “เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้นนั้น จะต้องทำความสะอาดคราบไคลออกก่อน และจะพิจารณาอย่างละเอียด ส่วนสาเหตุหลักนั้นพบว่าเหล็กที่รัดปลีเป็นสนิมอย่างหนักจะต้องเอาออกไม่ใช่อีกต่อไป ส่วนกันสาดนั้นเป็นทองแดงที่ปิดทองกันสาดเข้าไป ส่วนตะปูที่ยึดนั้นเป็นตะปูคอนกรีต ในวันพรุ่งนี้ต้องล้างทำความสะอาดกันอีกครั้ง” หัวหน้ากลุ่มงานช่างโลหะ สำนักงานช่างสิบหมู่กล่าว


ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ชาวสวนยางนครศรีฯ ร้องราคายางตก เตรียมเคลื่อนไหวใหญ่ที่สุราษฎร์ฯ 1 ส.ค.นี้



 เครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางนครศรีธรรมราช ชุมนุม และยื่นหนังสือที่ศาลากลางจังหวัด เรียกร้องราคายางให้สูงขึ้น หลังรัฐบาลไม่เหลียวแล พร้อมเตรียมเคลื่อนไหวในวันที่ 1 ส.ค.ที่ จ.สุราษฎร์ธานี
      
       เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ก.ค.56 เครือข่ายชาวสวนยางจังหวัดนครศรีธรรมราชกว่า 200 คน เข้าชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเรียกร้องราคายางที่กำลังตกต่ำ และให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน หลังจากเห็นว่ารัฐบาลไม่ได้ใส่ใจต่อราคายางพาราในภาคใต้ ขณะเดียวกัน ได้ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเสนอข้อเรียกร้อง คือ ให้รัฐกำหนดราคายางพาราขั้นต่ำ
      
       โดยราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคา 101 บาทต่อกิโลกรัม ราคายางแผ่นดิบคุณภาพ 3 ราคา 92 บาท ราคาน้ำยางสด 81 บาท และราคายางถ้วยก้อน 83 บาท และให้รัฐบาลบริหารจัดการยางพาราในโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางในสต๊อก จำนวน 2 แสนตัน ที่มีอยู่ให้เร็วที่สุดเพื่อยกระดับราคายางให้สูงขึ้น
      
       ขณะที่ นายทวี ขวัญศรีสุทธิ์ รองประธาน สกย.นครศรีธรรมราช เขต 2 ระบุว่า รัฐบาลไม่ควรเพิกเฉย หลังจากนี้เครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพาราทั้ง 56 จังหวัด จะรอฟังคำตอบว่าจะดำเนินการอย่างไร และจะกำหนดมาตรการในการร่วมเคลื่อนไหว โดยลำดับแรกในวันที่ 1 ส.ค.56 เกษตรกรชาวสวนยางสุราษฎร์ธานี จะเริ่มเคลื่อนไหวเป็นจังหวัดแรก ส่วนมาตรการนั้นยังไม่เป็นที่เปิดเผย


ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

ลูกจ้าง สธ.ทั่วประเทศเตรียมเคลื่อนไหวหลังถูกลดค่าจ้างไม่เป็นธรรม



สมาพันธ์ลูกจ้างกระทรวงสาธารณสุขจากทั่วประเทศ เตรียมเคลื่อนไหวหลังจากถูกกดดันด้วยการจัดระเบียบเรื่องการจ้าง และนำไปสู่การลดค่าจ้างที่ไม่เป็นธรรม
      
       เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 24 ก.ค.56 ที่โรงพยาบาลมหาราช อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายประสิน นาคกราย ประธานสมาพันธ์สมาคมลูกจ้างของรัฐแห่งประเทศไทย และนายโอสถ สุวรรณเศวต รองประธานฝ่ายประสานงาน ได้ร่วมกับลูกจ้างนอกงบประมาณของโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช กว่า 150 คน ออกแถลงการณ์ในนามสมาพันธ์สมาคมลูกจ้างของรัฐแห่งประเทศไทย เพื่อให้กระทรวงสาธารณสุข ทบทวนร่างระเบียบพนักงานกระทรวงสาธารณสุขที่ส่งผลกระทบต่อลูกจ้างในกระทรวงจำนวนมาก
      
       โดยใจความสำคัญของแถลงการณ์นั้น ได้ระบุถึงแบบแสดงเจตนาของลูกจ้างชั่วคราวเงินบำรุงในการขอประเมินเข้าสู่ตำแหน่งพนักงานกระทรวงสาธารณสุข ตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยพนักงานกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.2556 ระเบียบนี้ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการ และยังสั่งการให้ลูกจ้างยินยอมลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มเข้ารับการประเมิน และข่มขู่ว่า หากลูกจ้างไม่ยอมลงชื่อเข้ารับการประเมินจะถูกเลิกจ้าง หรือจ้างแบบรายวัน รายคาบ และยังพยายามทำลายความสามัคคีของลูกจ้างโดยแบ่งแยกลูกจ้างออกเป็น 2 กลุ่ม โดยอ้างว่า กลุ่มคนจำนวนมากจะได้รับประโยชน์จากการปรับค่าจ้างที่สูงขึ้น ส่วนอีกกลุ่มบอกว่าต้องยอมเสียสละเพื่อคนส่วนใหญ่ เป็นการแสดงเจตนาที่บิดเบือน และไม่จริงใจ แถลงการณ์ตอนหนึ่งระบุ
      
       ขณะที่ นายโอสถ สุวรรณ์เศวต รองประธานสมาพันธ์ ฝ่ายประสานเปิดเผยว่า ระเบียบดังกล่าวนั้นจะเป็นการลิดรอนสิทธิ และส่งผลให้ลูกจ้างที่มีอายุงานยาวนานมากกว่า 10 ปี ได้รับผลกระทบ บางรายมีอายุงานกว่า 30 ปี มีเงินเดือนไม่ถึง 9,800 บาท และจะได้รับผลกระทบถูกปรับลดเหลือเพียง 9,480 บาท โดยระเบียบใหม่ที่ผู้ที่มีอายุงานมากกว่า 10 ปี ดูเหมือนว่าจะขึ้นเงินเดือนให้ 25 เปอร์เซ็นต์ แต่อำพรางไว้ว่า ขึ้นในอัตราแรกจ้าง เงินเดือนจะลดลงทั้งหมด และระเบียบที่กระทรวงสาธารณสุขร่างขึ้นโดยไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการที่ถูกแต่งตั้งขึ้น ส่งผลทำให้เงินเดือนจะต้องลดลง และผลกระทบในด้านอื่นๆ อย่างกว้างขวางต่อลูกจ้างกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 1.2 แสนคน ทั่วประเทศ โดยในวันที่ 5 สิงหาคม ตัวแทนลูกจ้างจากกระทรวงสาธารณสุข อย่างน้อยจาก 44 จังหวัด จะเดินทางไปแสดงเจตนารมณ์ในการปกป้องสิทธิของลูกจ้างอย่างถึงที่สุดเพื่อความเป็นธรรม


ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ชาวควนทอง นครศรีฯ ร้องไฟฟ้าดับแค่ลมพัด ฟ้าร้อง จี้ไฟฟ้าแก้ไข



ชาวบ้าน ต.ควนทอง อ.ขนอม สุดทน ไฟฟ้าดับตลอด ไม่ว่าลมพัด ฝนตก หรือฟ้าร้อง และเป็นเวลานาน รวมตัวกว่า 200 คน ชุมนุมเรียกให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเร่งแก้ไข
       
       วันที่ 16 ก.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีชาวบ้านจากพื้นที่ ม.9 ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ประมาณ 200 คน เดินขบวนจากหมู่บ้านไปยังสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอขนอม โดยมีนายสิทธิชัย จันทรสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านเป็นแกนนำ แสดงความไม่พอใจที่ไฟฟ้าดับบ่อยครั้ง แต่ละครั้งดับนานมาก โดยชาวบ้านได้ใช้รถยนต์กระบะตั้งเป็นเวทีชั่วคราวในการปราศรัย เพื่อเรียกร้องให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้ามาแก้ไขปัญหาให้
       
       ทั้งนี้ การปราศรัยของชาวบ้านที่ผลัดกันขึ้นเวทีระบุว่า ไฟฟ้าในพื้นที่ ม.9 ต.ควนทอง อ.ขนอม นั้น ไม่ว่าฝนตกเล็กน้อย ลมพัดเบาๆ แม้กระทั่งฟ้าร้องไฟฟ้าก็ดับแล้ว และตอนไฟติดก็ไม่ได้ใช้อย่างเต็มที่เพราะไฟตก ทำให้ชาวบ้านต้องได้รับความเดือดร้อนมานาน โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องคอมพิวเตอร์นั้นได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นอย่างนี้มานานมากแล้ว
       
       ทำให้ชาวบ้านทุกคนที่ได้รับผลกระทบมีความเดือดร้อน และเห็นว่าไม่มีใครเข้ามาแก้ไขปัญหาให้แก่ชาวบ้าน แม้จะร้องเรียนไปยังหน่วยที่รับผิดชอบก็ไม่เข้ามาดูแล เมื่อเห็นว่าพวกเราถูกละเลยจึงได้รวมตัวกันมาชุมนุมเพื่อเรียกให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการไฟฟ้าเข้ามาแก้ปัญหาให้แก่ชาวบ้านโดยด่วน อย่างไรก็ตาม ทางการไฟฟ้าฯ ก็ได้ระบุว่า จะเร่งทำการปรับปรุงระบบให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนนี้ ขอชาวบ้านอย่าได้วิตก ไฟฟ้าจะปกติโดยเร็ว


ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

บินสำรวจป่าสงวนนครศรีฯ พบร่องรอยบุกรุก พิรุธเหมืองแร่ขุดนอกเขตสัมปทาน


เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 บินสำรวจอุทยานหลายจุด พบร่องรอยการบุกรุกในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และพบพิรุธเหมืองแร่แห่งหนึ่ง อาจขุดแร่นอกเขตพื้นที่สัมปทานบัตร เร่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ      
       วันที่ 5 ก.ค.56 เจ้าหน้ากรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช ได้ร่วมขึ้นบินสำรวจพื้นที่อุทยานแห่งชาติในจังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติเขาหลวง อุทยานแห่งชาติเขานัน และอุทยานแห่งชาติน้ำตกสี่ขีด ในพื้นที่อำเภอนบพิตำ อำเภอท่าศาลา อำเภอสิชล และอำเภอขนอม โดยสภาพพื้นที่ป่าในเขตอุทยานพบว่า ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์เนื่องจากเป็นพื้นชั้นใน แต่อย่างไรก็ตาม พบว่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่อยู่รายรอบพื้นที่อุทยานอยู่ในสภาพถูกบุกรุกแผ้วถางทำลายหลายจุดด้วยกัน
      
       ขณะเดียวกัน ยังพบข้อพิรุธบางอย่างในบริเวณเขตป่าสงวนแห่งชาติที่มีการเปิดสัมปทานเหมืองแร่ในพื้นที่ พบว่า เดิมนั้นมีการอนุญาตพื้นที่ราว 50 ไร่ แต่กลับพบว่ามีการใช้เครื่องกลหนักขุดพื้นที่อย่างกว้างขวาง ครอบคลุมภูเขาทั้งลูก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบขอบเขตพื้นที่สัมปทานอย่างเร่งด่วน เนื่องจากสภาพพื้นที่ป่าได้รับผลกระทบอย่างกว้างขวาง
      
       นายณัฐพล รัตนพันธ์ ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่อนุรักษ์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้บินสำรวจในพื้นที่อุทยานแห่งชาติที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติ พบว่า โดยส่วนใหญ่นั้นยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ แต่พบการบุกรุกอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ ส่วนเหมืองแร่นั้นเช่นเดียวกัน อยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ เนื่องจากอยู่ในเขตป่าสงวน และกระบวนการจะอยู่ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งทางผู้ที่เกี่ยวข้องต้องเข้าตรวจสอบไปตามลำดับ
ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

นครศรีฯ จ่อเดือด! ผู้ว่าฯ ตั้งกรรมการเดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหินหัวไทร ท่ามกลางแรงต้านของคนพื้นที่


โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินหัวไทรจ่อเดือด ผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช ตั้งคณะกรรมการศึกษาเดินหน้าประชุมนัดแรกเตรียมเที่ยวเกาหลีใต้ อ้างดูงานโรงไฟฟ้า ขณะที่ภาคประชาชนเดินหน้าค้านกลางวงจนเวทีประชุมล่ม ซ้ำลือสะพัดเตรียมเด้ง หน.ศูนย์ถ่านหินหัวไทร ลดแรงต้าน
           เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ก.ค.56 ที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช คณะกรรมการการมีส่วนร่วมโครงการศึกษาโรงไฟฟ้าเทคโนโลยีถ่านหินสะอาดในเขตพื้นที่หัวไทร ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่ถูกแต่งตั้งโดย นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีการลงนามไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา และมีการออกประกาศจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
      
       โดยคณะกรรมการชุดนี้ได้ถูกนำมาจากภาคส่วนต่างๆ โดยตำแหน่งทั้งหมด ทั้งภาครัฐ และเอกชน รวม 41 ราย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานโดยตำแหน่ง และมีนายอุทัย ภูริพงศธร พลังงานจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นเลขานุการ นายไกรโชค ผลชีวิน ผช.ผู้ว่าการชุมชนสัมพันธ์และสิ่งแวดล้อม กฟผ. เป็นกรรมการจากฝ่าย กฟผ.เข้าร่วมด้วย ซึ่งได้มีการเรียกประชุมเป็นนัดแรก
      
       ขณะเดียวกัน ได้มีประชาชนจำนวนมากจาก อ.หัวไทร ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายก่อสร้างโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งนี้จำนวนหนึ่งเข้าร่วม โดยมีความพยายามขัดขวางจากเจ้าหน้าที่โดยอ้างว่าเป็นการประชุมของคณะกรรมการ ไม่เกี่ยวกับภาคประชาชน แต่ในที่สุดไม่สามารถขัดขวางได้
          อย่างไรก็ตาม ก่อนการประชุมปรากฏว่า ทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ค่อนข้างตึงเครียดกับสถานการณ์ และรอประธานในที่ชุมจนเวลาล่วงเลยนัดหมายไปกว่า 1 ชั่วโมง ปรากฏว่าผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ไม่ได้เข้าร่วมประชุม โดยแจ้งว่าติดราชการ ส่งผลให้ นายอุทัย ภูริพงศธร พลังงานจังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการต้องดำเนินการประชุมแทน โดยมีวาระสำคัญคือ การแจ้งถึงโครงการนำคณะกรรมการทั้งหมดไปศึกษาดูงานในประเทศเกาหลีใต้ โดยมีเหตุผลที่สำคัญคือ การไปดูงานโรงไฟฟ้าของประเทศเกาหลีใต้
      
       และหลังจากการประชุมเริ่มไปได้เพียง 15 นาที นายอุทัย ได้อธิบายถึงอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการตามคำสั่งแต่งตั้งนี้ ปรากฏว่า ชาวบ้านจาก อ.หัวไทร รวมทั้งแกนนำได้แสดงการคัดค้านด้วยการถือป้ายข้อความต่างๆ เต็มห้องประชุม ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น
      
       ขณะที่นายประเสริฐ คงสงค์ ประธานอาสาสมัครพิทักษ์สิ่งแวดล้อมอำเภอหัวไทร ได้สอบถามถึงที่ไปที่มาของการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ รวมทั้งความชอบธรรมในการแต่งตั้ง สืบเนื่องจากความพยายามในการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน จำนวน 2 ครั้ง เมื่อกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ได้ล้มเหลว ซึ่งชัดเจนว่าประชาชนปฏิเสธโรงไฟฟ้าถ่านหิน 
          ประกอบกับ นายประกอบ คงพรหม แกนนำภาคประชาชน และนายครองศักดิ์ แก้วสกุล ประธานเครือข่ายรักษ์บ้านเกิดลุ่มน้ำปากพนัง ผลัดเปลี่ยนกันอภิปรายถึงความไม่ชอบธรรมของการจัดตั้งคณะกรรมการชุดนี้ สืบเนื่องจากความล้มเหลวของการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นไปแล้วถึง 2 ครั้ง และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ เองได้ทำหนังสือแจ้งมาแล้วว่า ไม่มีแผนที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ อ.หัวไทร มาตั้งแต่ปี 2554 ดังนั้น การจัดตั้งคณะกรรมการชุดนี้เพื่อเดินหน้าต่อไปเท่ากับเป็นการหลอกลวงชาวบ้านในพื้นที่
      
       ความตึงเครียดได้มีมากขึ้น ขณะที่นายไกรโชค ผลชีวิน ผช.ผู้ว่าการชุมชนสัมพันธ์และสิ่งแวดล้อม กฟผ.มีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก เมื่อนายสุกิจ เนียมรินทร์ กำนันตำบลหน้าสตน ได้ขึ้นพูดแสดงความไม่พอใจกลุ่มประชาชนที่มาคัดค้าน ก่อนที่จะเดินปรี่เข้าไปหานายประเสริฐ คงสงค์ ประธานอาสาสมัครพิทักษ์สิ่งแวดล้อมอำเภอหัวไทร หลังจากนั้น ได้มีการห้ามปรามก่อนที่สถานการณ์จะคลี่คลาย และการประชุมไม่สามารถเดินต่อไปได้ต้องปิดประชุมลงในที่สุด
           อย่างไรก็ตาม ในการแต่งตั้งคณะกรรมชุดนี้ขึ้นมาของ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ทำให้สถานการณ์ในการต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ทวีความตึงเครียดขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง
      
       ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะในส่วนของศูนย์ข้อมูลพัฒนาพลังงานไฟฟ้านครศรีธรรมราช (ศูนย์เตรียมการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน) มีกระแสข่าวว่า ผู้บริหารระดับสูงเตรียมที่จะปรับเปลี่ยนบุคลากร โดยอาจมีการโยกย้ายนายสัณห์ เงินถาวร หัวหน้าศูนย์ข้อมูลแห่งนี้ไปประจำที่โรงไฟฟ้าจะนะแห่งที่ 2 แทน และอาจมีการปรับเปลี่ยนเอา นางพัชรา เด่นวรกุล ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญงานด้านมวลชนสัมพันธ์ มาทำหน้าที่แทน เพื่อลดแรงต้านจากชุมชน และชาวประมงชายฝั่งที่แสดงการคัดค้านอย่างหนัก แต่ทั้งนี้จะมีความชัดเจนมากขึ้นหลังจากผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้มอบนโยบายแล้ว
ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2556

ฮือฮา! ตร.เมืองคอนออกหมายจับผู้ก่อการดีให้มารับรางวัลข้อหาเป็นตัวอย่างที่ดีต่อสังคม


ตำรวจเมืองนครศรีธรรมราช ออกหมายจับผู้ก่อการดีใบแรกในโลก ขึ้นป้ายไวนิล 4 มุมเมือง ประกาศจับครอบครัวตัวอย่าง สวมหมวกนิรภัย ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เป็นตัวอย่างที่ดีต่อสังคม จึงออกหมายจับให้มารับรางวัลในข้อหาสร้างตัวอย่างที่ดีแก่สังคม
      
       ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช มีการนำภาพ พ่อ แม่ ลูก ครอบครัวหนึ่ง ซึ่งมีสมาชิก จำนวน 3 คน ขณะกำลังขับ และนั่งรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรนายหนึ่งซุ่มบันทึกภาพไว้ได้ จากนั้นได้จัดทำเป็นป้ายไวนิลขนาดใหญ่มาติดตั้ง โดยทั้ง 3 คน ในภาพสวมหมวกนิรภัยครบทุกคน แสดงให้เห็นว่าครอบครัวนี้ให้ความเคารพกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด และเป็นการสวมหมวกนิรภัยตลอดเวลาที่มีการขับขี่เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ไม่ใช่สวมเพื่อป้องกันตำรวจจับอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ อีกทั้งยังเป็นครอบครัวตัวอย่างที่ควรแก่การยกย่อง
      
       พ.ต.ท.สุทธิ นิติอัครพงศ์ รอง ผกก.จราจร สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ได้นำภาพดังกล่าวออกมาปิดประกาศเป็นหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน โดยขึ้นป้ายทั่วทั้ง 4 มุมเมือง และที่หน้า สภ.เมืองนครศรีธรรมราช การออกหมายจับไม่ใช่เป็นการดำเนินคดี แต่ให้ผู้ต้องหาทั้งหมดมารับรางวัลที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดเตรียมไว้ให้เช่น เสื้อครอบครัวสวมหมวกนิรภัย บัตรลดร้านอาหาร และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย รวมทั้งเกียรติบัตรด้วย นี่เป็นหมายจับใบแรกของโลกที่ออกหมายจับผู้ต้องหาที่เป็นคนดีในสังคม แต่ถึงวันนี้ยังไม่มีครอบครัวดังกล่าวไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทราบชื่อที่อยู่แล้ว จะได้ดำเนินการออกหมายเรียก และถ้าหากยังไม่มาจะไปเชิญตัวถึงบ้านในโอกาสต่อไป
      
       ซึ่งหลังจากขึ้นป้ายปิดประกาศ ได้มีประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาเกิดความสงสัยถึงที่มาของป้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอฝากอธิบายชี้แจงไปยังประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนให้เข้าใจว่า นี่เป็นหมายจับใบแรกของโลกที่ออกหมายจับผู้ต้องหาที่เป็นคนดีให้ไปรับรางวัล ข้อหาสร้างตัวอย่างที่ดีแก่สังคม
      
       พ.ต.ท.สุทธิ นิติอัครพงศ์ กล่าวต่อไปว่า จากนโยบายของรัฐบาลในการรณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100% ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดต่อประชาชน ผู้ขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ โดยเฉพาะข้าราชการต้องปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ประชาชน ในการขับขี่รถจักรยานยนต์หากไม่สวมหมวกนิรภัยจะถูกปรับสูงสุด 500 บาท ปรากฏว่า ให้มีผู้สวมหมวกนิรภัยเพิ่มขึ้นเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณเป็นจังหวัดที่มีอัตราการสวมหมวกนิรภัยเพิ่มขึ้นอย่างยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยังคงเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายต่อไป เพื่อลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนทั้งผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต
โดย.. ASTV Manager ภาคใต้

“พล.อ.อุดมชัย” ส่งไม้ต่ออย่างสมเกียรติให้ “พล.ท.สกล” มทภ.4 คนใหม่ มั่นใจสานต่อดับไฟใต้


พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ ทำพิธีทางทหารส่งมอบตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 อย่างเป็นทางการ ต่อหน้ากำลังพลใต้ซุ้มปืนใหญ่ พร้อมแสดงความมั่นใจในการทำหน้าที่ของ พล.ท.สกล ชื่นตระกูล ในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ได้อย่างต่อเนื่อง
      
       วันที่ 3 เม.ย.56  ที่สนามบินกองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายทหารชั้นผู้ใหญ่ และกำลังพลของกองทัพภาคที่ 4 กว่า 1,300 นาย ได้เข้าร่วมพิธีส่งมอบการบังคับบัญชาทางทหาร ตามประเพณีปฏิบัติในตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 ภายใต้ซุ้มปืนใหญ่ขนาด 150 มม. โดย พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ได้กระทำพิธีส่งมอบธงประจำตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 ให้แก่ พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 อย่างสมเกียรติตามประเพณีทหารในระดับผู้บังคับบัญชาระดับสูง
      
       พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวต่อหน้ากำลังพลทั้งหมดที่มาร่วมพิธีว่า พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาค 4 ได้ผ่านการทำหน้าที่บังคับบัญชาในตำแหน่งสำคัญมาเป็นเวลานาน มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถสืบสานงานรักษาความมั่นคงภายในต่อไปได้เป็นอย่างดี
      
       ภายหลังการประกอบพิธี พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะเดินหน้าสานต่อในนโยบายของผู้บัญชาการทหารบกในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ต่อไป การเจรจาพูดคุยนั้นยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น หากมีความคืบหน้า วิธีการในพื้นที่อาจเปลี่ยนไปก็เป็นได้ ส่วนเรื่องของโครงการพาลูกกลับบ้านนั้นยังคงทำต่อไปเช่นเดิม
โดย.. ASTV Manager ภาคใต้

ประมงพื้นบ้านหัวไทรร้องแนวกันคลื่นทำลายชีวิตชาวเลมีกลิ่นฟุ้งเตรียมสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน


ชาวประมงพื้นบ้านร้อง เดือดร้อนจากโครงการก่อสร้างแนวกันคลื่นของกรมเจ้าท่า และแสดงความกังวลในการขุดทำลายชายหาด ก่อนนำทรายใส่บิ๊กแบ็กสร้างแนวกันคลื่นทำลายวิถีการดำเนินชีวิตของชาวเล และยังเชื่อมั่นว่า เป็นการเตรียมความพร้อมในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินในพื้นที่
     
       ที่ชุมชนชาวประมงพื้นบ้านในหมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 6 ตำบลเกาะเพชร อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช กำลังมีโครงการสร้างแนวกันคลื่น โดยกรมเจ้าท่า ซึ่งชาวประมงได้ร้องเรียนถึงความเดือดร้อนที่กำลังได้รับจากโครงการ ทำให้ไม่สามารถนำเรือเข้ามาจอดยังริมตลิ่งในหมู่บ้านได้ เนื่องจากจะกระแทกกับหินที่ทางโครงการนำมาเป็นฐานในการวางถุงทรายขนาดใหญ่สร้างเป็นแนวกันคลื่น โดยใช้วิธีการขุดทรายจากชายหาดเดิม เพื่อเอาทรายที่ได้บรรจุในบิ๊กแบ็ก แล้วนำมาเรียงซ้อนกันจนสูงกว่า 5 เมตร ทำให้ชายหาดเสียสภาพไปอย่างสิ้นเชิงจนไม่สามารถพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้
     
       นายอะหมัด จรเมือง ประธานกลุ่มธนาคารปูบ้านหนองมนต์ ตำบลเกาะเพชร ระบุว่าโครงการนี้ไม่ได้มีการศึกษาถึงผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ ไม่ได้ถามถึงความต้องการของชาวบ้านจุดที่ชาวบ้านต้องการกลับไม่มีโครงการ แต่จุดที่ชาวบ้านไม่ต้องการกลับมีโครงการเช่นนี้มาสร้าง การขุดชายหาดแล้วนำทรายที่ได้มาบรรจุถุงขนาดใหญ่เรียงซ้อนเป็นชั้นทำแนวกันคลื่นใช้งบประมาณสูงมาก 11 ช่องใช้งบถึง 15 ล้านบาท ทรายขุดเอาจากชายหาดทั้งหมดทำให้หาดทรายเดิมเสียสภาพไปอย่างสิ้นเชิงไม่สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้อีกแล้ว
     
       “ที่สำคัญ กระทบต่อวิถีชีวิตของชาวเลเป็นอย่างมากกว่า 20 ครัวเรือน ที่มีอาชีพประมงพื้นบ้านเดือดร้อนไม่สามารถนำเรือเข้าออกได้ตามปกติ เรืออาจชนหินขนาดใหญ่แตกได้ง่าย และเชื่อว่า การก่อสร้างเช่นนี้กำลังมีการเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะรองรับโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินริมทะเลหัวไทร ซึ่งทาง กฟผ.เคลื่อนไหวอย่างเงียบๆ มาโดยตลอดนายอะหมัดระบุ
โดย.. ASTV Manager ภาคใต้

อากาศร้อนจัด ปชช.แห่เที่ยวน้ำตกคึกคัก ส่งผลถึงพ่อค้าแม่ค้ายิ้มหน้าบาน


หลังจากในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เกิดภาวะสภาพอากาศร้อนจัดผ่านมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน ส่งผลให้น้ำตกในอุทยานแห่งชาติต่างๆ ในจังหวัดเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ สร้างรายได้ให้แก่พ่อค้าแม่ค้าเป็นกอบเป็นกำ
     
       วันที่ 3 เม.ย.56 ที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกท่าแพ ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ใกล้ทางหลวงหมายเลข 4015 เส้นทางนครศรีธรรมราช-อ.ช้างกลาง ห่างจากตัวเมืองนครศรีธรรมราชราชประมาณ 40 กิโลเมตร ซึ่งพบว่ามีประชาชนเดินทางไปเป็นครอบครัวลงเล่นน้ำตกกันเป็นจำนวนมาก จนที่จอดรถมีไม่เพียงพอต้องต่อคิวยาวนับเป็นกิโลเมตร
     
       นายวิชัย คงรักษ์ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาหลวง น้ำตกท่าแพ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือน น้ำตกแห่งนี้เงียบเหงาไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเล่นน้ำตก เก็บค่าผ่านด่านได้วันละไม่ถึง 300 บาท แต่หลังจากเกิดภาวะสภาพอากาศร้อนจัด มีประชาชนเดินทางเข้ามาเล่นน้ำคลายร้อนกันเป็นจำนวนมาก สามารถเก็บค่าผ่านด่านได้ถึงวันละ 1 หมื่นบาท ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน
     
       นอกจากนั้น ยังส่งผลดีต่อบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่นำอาหารมาขายแก่นักท่องเที่ยว สร้างรายอย่างงดงามอีกด้วย และเป็นที่น่าสังเกตว่า ในช่วงนี้บรรดานักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเด็ก และผู้สูงวัยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก จากเมื่อก่อนจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนที่มาเที่ยวเล่นน้ำ
โดย.. ASTV Manager ภาคใต้