วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ช่างสิบหมู่กรมศิลปากรตรวจสอบกลีบบัวทองคำองค์พระบรมธาตุแล้ว



ทีมช่างสิบหมู่กรมศิลปากร เข้าตรวจสอบกลีบบัวทองคำ องค์พระบรมธาตุเจดีย์แล้ว เบื้องต้นพบความเสียหายจากโครงเหล็กที่ถูกนำไปติดตั้งภายหลัง และการผุกร่อนของทองคำบางส่วน
      
       เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ส.ค.56 นายอาณัฐ บำรุงวงศ์ ผอ.สำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช ได้นำคณะกรรมการช่างสิบหมู่ในส่วนของกลุ่มงานโลหะและกลุ่มงานประณีตศิลป์ กรมศิลปากรเข้านมัสการพระเทพวินยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ฝ่ายธรรมยุติ เพื่อเข้าชี้แจงแนวทางในการตรวจสอบกลีบบัวคว่ำหงายทั้ง 60 กลีบ และปลียอดทองคำบนองค์พระบรมธาตุเจดีย์
      
       โดยเมื่อได้เวลาฤกษ์ เจ้าหน้าที่ช่าง 10 หมู่ นายธีรชัย จันทรังษี หัวหน้ากลุ่มงานช่างโลหะ สำนักงานช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ได้นำทีมช่างสิบหมู่ ทั้งจากกลุ่มงานโลหะ และกลุ่มงานประณีตศิลป์ สักการะขอขมาองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช ก่อนปีนขึ้นไปยังโครงเหล็กนั่งร้าน ตรวจสอบกลีบบัวทองคำที่พบร่องรอยความเสียหายจากการตรวจสอบในระยะไกลก่อนหน้านี้ และเมื่อขึ้นไปตรวจสอบอย่างใกล้ชิดพบว่า จุดที่มีความเสียหายนั้นเกิดจากการนำเอาโครงเหล็กธรรมดายึดรอกเหล็กสำหรับชักรอกนำไฟขึ้นไป
      
       ทั้งที่ภายหลังจากการบูรณะครั้งใหญ่เมื่อกว่า 25 ปีก่อน ช่างจากกรมศิลปากรไม่อนุญาต และไม่เห็นชอบให้นำวัตถุโลหะแปลกปลอมอื่นใดขึ้นไปติดตั้ง แต่ปรากฏว่า ถูกนำขึ้นไปติดตั้งหลังจากที่มีการบูรณะเสร็จสิ้น และยังไม่มีการรื้อนั่งร้านออกไป ซึ่งสนิมจากโครงเหล็กดังกล่าวได้กัดกร่อนอย่างรุนแรง และได้แผ่ขยายเป็นวงกว้าง คราบสนิมเยิ้มลงมาเปื้อนเนื้อทองคำจนสร้างความเสียหาย และเยิ้มออกมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปล้องไฉนที่มองเห็นได้จากระยะไกล
      
       ขณะที่เนื้อทองคำกลีบบัวคว่ำบัวหงายบางส่วนชำรุดจากแรงลม และผุกร่อน รวมทั้งตะปูที่ยึดทองคำซึ่งพบว่ามีการใช้ตะปูเหล็กเป็นสนิมแทบทั้งหมด ทำให้การยึดหลุดไปบางส่วน อัญมณีขนาดใหญ่ที่ประดับหลุดหายไปหลายเม็ด โดยเฉพาะแถวประดับอัญมณีชั้นล่างสุด โดยในวันพรุ่งนี้ (2 ส.ค.) ทีมช่างสิบหมู่จะขึ้นทำความสะอาดทองคำ เพื่อตรวจสอบความชัดเจนอีกครั้งร วมทั้งปลดเอาโครงเหล็กออกทิ้ง
      
       นายธีรชัย จันทรังษี หัวหน้ากลุ่มงานโลหะ ช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร เปิดเผยว่า ในส่วนของทองคำนั้น กรมศิลปากรได้หลอมทองเก่ามาทำเป็นกลีบบัวทองคำ และทองใหม่นั้นประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์โดยประมาณ ซึ่งหากมีเปอร์เซ็นต์สูงนั้น ทองจะเสียรูปทรงง่าย การสุกประกายของทองนั้นหากเปอร์เซ็นต์สูงจะไม่เงาที่ควร แต่ถ้าอยู่ที่ 85 เปอร์เซ็นต์จะสุกปลั่ง
      
       “เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้นนั้น จะต้องทำความสะอาดคราบไคลออกก่อน และจะพิจารณาอย่างละเอียด ส่วนสาเหตุหลักนั้นพบว่าเหล็กที่รัดปลีเป็นสนิมอย่างหนักจะต้องเอาออกไม่ใช่อีกต่อไป ส่วนกันสาดนั้นเป็นทองแดงที่ปิดทองกันสาดเข้าไป ส่วนตะปูที่ยึดนั้นเป็นตะปูคอนกรีต ในวันพรุ่งนี้ต้องล้างทำความสะอาดกันอีกครั้ง” หัวหน้ากลุ่มงานช่างโลหะ สำนักงานช่างสิบหมู่กล่าว


ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

ไม่มีความคิดเห็น: