นาข้าวกว่า 5 พันไร่ ในเขตลุ่มน้ำปากพนังวิกฤต ฝนทิ้งช่วง น้ำในคลองแห้งขอด ขาดน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าว จ่อนาล่ม ชาวนาโอดลงทุนไปมาก วิ่งร้องขอทุกหน่วยงานช่วยกลับเงียบ ต้องช่วยเหลือตัวเองตามมีตามเกิด ทั้งที่เป็นเขตพื้นที่โครงการพระราชดำริ
วันที่ 23 ก.ค.55 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดปัญหาน้ำแล้งอย่างหนัก ในพื้นที่รอยต่อระหว่างอำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอปากพนัง และอำเภอเชียรใหญ่ และกำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ของเกษตรกรนาข้าวในพื้นที่กว่า 5,000 ไร่ ซึ่งหลังจากที่ได้เข้าติดตามสถานการณ์พบว่า ชาวนาหลายคนในพื้นที่พยายามช่วยเหลือตนเองด้วยการลงขันกันซื้อน้ำมัน เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงเครื่องไถนาแบบเดินตามหลายเครื่องมาดัดแปลงเป็น เครื่องสูบน้ำ
โดยการตั้งเป็นสถานีสูบน้ำแบบชาวบ้าน จากลำคลองเชียรใหญ่ ส่งต่อไปยังคลองแดนซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่างหมู่ 10 ต.เชียรใหญ่ อ.เชียรใหญ่ และหมู่ 12 ต.เชียรเขา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ส่งผ่านต่อไปยังทุ่งนาที่มีการปลูกข้าวจนเต็มเนื้อที่กว่า 5,000 ไร่ ที่กำลังขาดน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าว ส่งผลให้ข้าวในหลายรุ่นอายุทั้งเพิ่งหว่านได้ไม่นาน วัยตั้งท้อง และชูรวงแล้วกำลังยืนต้นตาย พื้นดินแตกระแหง
ขณะที่ฝนได้ทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ทำให้นาข้าวทั้งหมดกำลังล่ม การเพาะปลูกในฤดูกาลนี้ที่ได้ลงทุนไปมากกำลังล้มเหลว และไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ จากทางการ ทั้งที่เป็นพื้นที่โครงการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นายสุพจน์ ถ้ำคู่ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ต.เชียรใหญ่ อ.เชียรใหญ่ เปิดเผยว่า ชาวบ้านในพื้นที่เกือบทั้งหมดมีอาชีพทำนาข้าวเพียงอย่างเดียว ทั้งหมดกำลังเดือดร้อน วิ่งไปหาความช่วยเหลือจากทางการ ทั้งชลประทาน อำเภอ จังหวัด ยังไม่ได้รับการตอบรับ ชาวบ้านต้องการให้ช่วยผันน้ำมาหล่อเลี้ยงนาข้าวที่ต่างลงทุนไปคนละหลายหมื่น บาท บางรายเป็นแสนบาท บางรายต้องชะลอการใส่ปุ๋ยนาข้าวเนื่องจากไม่มั่นใจว่าข้าวที่ลงทุนลงแรงปลูก ไปนั้นจะรอดหรือไม่
เนื่องจากกำลังทยอยตายไปอย่างต่อเนื่อง พื้นดินแตกระแหง และต่างต้องช่วยเหลือตัวเองด้วยการลงขันกันเพื่อเป็นต้นทุนในการผันน้ำจาก แหล่งน้ำเดียวที่มี ส่งไปตามลำคลองยาวกว่า 5 กิโลเมตร และต้องผลัดกันสูบเข้าเลี้ยงนาข้าวเป็นตอนๆ ไป แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากกำลังสูบน้ำมีน้อย และบางช่วงของลำคลองแห้งขอด สูบน้ำขึ้นมาไม่ได้ บางช่วงต้องพยายามสูบตมขึ้นมาเพื่อให้ท้องคลองลึกมากขึ้น
นายประพันธ์ เอียดทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 12 ต.เชียรเขา อ.เฉลิมพระเกียรติ บอกว่าชาวนาไม่ทราบจะหันหน้าไปพึ่งพาหน่วยงานใดได้ ต้องพยายามช่วยเหลือตัวเองตามมีตามเกิด น้ำในลำคลองแห้งขอด ฝนทิ้งช่วง นาข้าว 4-5 พันไร่กำลังยืนต้นแห้งตาย อยากขอร้องให้ทางการช่วยด้วยการผันน้ำเข้าพื้นอย่างเร่งด่วน ก่อนนาข้าวจะล่มไปทั้งหมด
วันที่ 23 ก.ค.55 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดปัญหาน้ำแล้งอย่างหนัก ในพื้นที่รอยต่อระหว่างอำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอปากพนัง และอำเภอเชียรใหญ่ และกำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ของเกษตรกรนาข้าวในพื้นที่กว่า 5,000 ไร่ ซึ่งหลังจากที่ได้เข้าติดตามสถานการณ์พบว่า ชาวนาหลายคนในพื้นที่พยายามช่วยเหลือตนเองด้วยการลงขันกันซื้อน้ำมัน เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงเครื่องไถนาแบบเดินตามหลายเครื่องมาดัดแปลงเป็น เครื่องสูบน้ำ
โดยการตั้งเป็นสถานีสูบน้ำแบบชาวบ้าน จากลำคลองเชียรใหญ่ ส่งต่อไปยังคลองแดนซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่างหมู่ 10 ต.เชียรใหญ่ อ.เชียรใหญ่ และหมู่ 12 ต.เชียรเขา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ส่งผ่านต่อไปยังทุ่งนาที่มีการปลูกข้าวจนเต็มเนื้อที่กว่า 5,000 ไร่ ที่กำลังขาดน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าว ส่งผลให้ข้าวในหลายรุ่นอายุทั้งเพิ่งหว่านได้ไม่นาน วัยตั้งท้อง และชูรวงแล้วกำลังยืนต้นตาย พื้นดินแตกระแหง
ขณะที่ฝนได้ทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ทำให้นาข้าวทั้งหมดกำลังล่ม การเพาะปลูกในฤดูกาลนี้ที่ได้ลงทุนไปมากกำลังล้มเหลว และไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ จากทางการ ทั้งที่เป็นพื้นที่โครงการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นายสุพจน์ ถ้ำคู่ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ต.เชียรใหญ่ อ.เชียรใหญ่ เปิดเผยว่า ชาวบ้านในพื้นที่เกือบทั้งหมดมีอาชีพทำนาข้าวเพียงอย่างเดียว ทั้งหมดกำลังเดือดร้อน วิ่งไปหาความช่วยเหลือจากทางการ ทั้งชลประทาน อำเภอ จังหวัด ยังไม่ได้รับการตอบรับ ชาวบ้านต้องการให้ช่วยผันน้ำมาหล่อเลี้ยงนาข้าวที่ต่างลงทุนไปคนละหลายหมื่น บาท บางรายเป็นแสนบาท บางรายต้องชะลอการใส่ปุ๋ยนาข้าวเนื่องจากไม่มั่นใจว่าข้าวที่ลงทุนลงแรงปลูก ไปนั้นจะรอดหรือไม่
เนื่องจากกำลังทยอยตายไปอย่างต่อเนื่อง พื้นดินแตกระแหง และต่างต้องช่วยเหลือตัวเองด้วยการลงขันกันเพื่อเป็นต้นทุนในการผันน้ำจาก แหล่งน้ำเดียวที่มี ส่งไปตามลำคลองยาวกว่า 5 กิโลเมตร และต้องผลัดกันสูบเข้าเลี้ยงนาข้าวเป็นตอนๆ ไป แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากกำลังสูบน้ำมีน้อย และบางช่วงของลำคลองแห้งขอด สูบน้ำขึ้นมาไม่ได้ บางช่วงต้องพยายามสูบตมขึ้นมาเพื่อให้ท้องคลองลึกมากขึ้น
นายประพันธ์ เอียดทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 12 ต.เชียรเขา อ.เฉลิมพระเกียรติ บอกว่าชาวนาไม่ทราบจะหันหน้าไปพึ่งพาหน่วยงานใดได้ ต้องพยายามช่วยเหลือตัวเองตามมีตามเกิด น้ำในลำคลองแห้งขอด ฝนทิ้งช่วง นาข้าว 4-5 พันไร่กำลังยืนต้นแห้งตาย อยากขอร้องให้ทางการช่วยด้วยการผันน้ำเข้าพื้นอย่างเร่งด่วน ก่อนนาข้าวจะล่มไปทั้งหมด
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น