วันเสาร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2554

ตร.ท่าศาลาตะครุบแก๊งทหารเกณฑ์ค้ายาไอซ์ส่งขายนักโทษในเรือนจำ


ตำรวจท่าศาลานครศรีธรรมราช จับกุมแก๊งทหารเกณฑ์ห่อยาไอซ์ น้ำหนักรวม 5.67 กรัม และโทรศัพท์ด้วยดินน้ำมันใส่ในกล่องนมส่ง ขายนักโทษในเรือนจำนครศรีฯ โดยการขว้างข้ามกำแพงเรือนจำ แล้วให้นักโทษโอนเงินเข้าบัญชีตน

วันที่ 14 ม.ค.54 เมื่อเวลา 09.00 น. ขณะที่ ส.ต.อ.สมพร รักดี ผบ.หมู่งานจราจร สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช กำลังยืนปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยและอำนวยการจราจร ริมถนนสามแยกภิบาล ในเขตเทศบาลตำบลท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช พบเห็นชายวัยรุ่นจำนวน 3 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 100 สีน้ำเงินดำ ทะเบียน คจฉ-59 นครศรีธรรมราช ผ่านมาด้วยท่าทางมีพิรุธ จึงส่งสัญญาณเรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจค้น โดยทำการค้นในตัวของชายวัยรุ่นทั้ง 3 คนไม่พบอะไรแต่ทั้ง 3 คนออกอาการพิรุธอย่างเห็นได้ชัดจึงสั่งให้เปิดเบาะรถตรวจค้น พบก้อนดินน้ำมันบรรจุในกล่องนมอย่างผิดปกติจำนวน 4 กล่องเมื่อเห็นเช่นนั้นชายวัยรุ่นทั้ง 3 คนจึงกระโดดวิ่งหลบหนีทันที

แต่หลังจากนั้น ส.ต.อ.สมพรจึงวิทยุสกัดจับ และไล่กวดตามไปโดยหลังจากวิทยุแจ้งสกัดจับแล้ว พ.ต.ท.ปรีชา ศรีสุกุล สวป.สภ.ท่าศาลา ได้นำกำลังตำรวจสายตรวจและชุดสืบสวนออกไล่ล่าสกัดจับคนร้ายทั้งสามทันที ในที่สุดก็สามารถไล่จับกุมคนร้ายมาได้ 1 คน หนีรอดไปได้ 2 คน จึงคุมตัวไว้ทราบชื่อคือ นายพงษ์ศักดิ์ อิทธิฤทธิ์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ม.3 ต.ไทรบุรี อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ส่วนเพื่อนอีก 2 คนที่หลบหนีไปได้ สอบสวนทราบชื่อนายสุริยัน หรืออาร์ม ไม่ทราบนามสกุล อายุ 21 ปี เป็นพลทหารเกณฑ์ค่ายทหารแห่งหนึ่งใน จ.สุราษฎร์ธานี และอีกคนชื่อนายแคว็ด อายุ 21 ปี ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล ซึ่งทางตำรวจได้เร่งสืบสวนหาตัวบุคคลทันที

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล่องนมจำนวน 4 กล่อง พบก้อนดินน้ำมันยัดภายในกล่องนมจนแน่น และเมื่อแกะดินน้ำมันออกดูก็พบโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ยาไอซ์ 1 ถุง และสายชาร์ทแบตเตอรี่ 1 อันถูกมัดรวมอยู่ในแต่ละกล่อง เมื่อรวมทั้ง 4 กล่องพบว่ามีโทรศัพท์มือถือพร้อมสายชาร์ท จำนวน 4 เครื่อง, ยาไอซ์ 7 ถุงน้ำหนักรวม 5.67 กรัม ,ดินน้ำมันที่ใช้ห่อหุ้มโทรศัพท์มือถือกับยาไอซ์และสายชาร์ท จำนวน 4 ก้อน และดินน้ำมันพร้อมใช้งานอีกหลายก้อนซุกไว้ใต้เบาะรถ

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวนายพงศ์ศักดิ์ไปยังบ้านพักเพื่อตรวจค้นพบหลักฐานเป็นปลอกกระสุนปืนลูกซองยาวจำนวน 3 ปลอก, เงินสด 1,300 บาท, ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือระบบวันทูคอลอีก 3 อัน และเสื้อลายพรางทหารของพลทหารสุริยันที่หลบหนีไปได้ จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานในการติดตามตัวมาดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม นายพงศ์ศักดิ์ ผู้ต้องหาได้ยอมรับสารภาพทุกกระบวนการทำให้เจ้าหน้าที่ถึงกับตกตะลึงกับคำรับสารภาพว่า เขาและเพื่อนที่หลบหนีไปได้ทั้งสามคนกำลังเตรียมยาไอซ์และโทรศัพท์มือถือพร้อมสายชาร์จแบตเตอรี่โดยใช้ดินน้ำมันหุ้มแล้วจับยัดใส่กล่องนมขนาดใหญ่ยี่ห้อไวตามิลค์แล้วใช้ดินน้ำมันห่อหุ้มกล่องนมอีกชั้นหนึ่ง รวมจำนวน 4 ก้อน เตรียมที่จะไปส่งให้กับลูกค้ารายหนึ่งซึ่งเป็นนักโทษชายในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชชื่อนายธีระพงษ์ พลราม ซึ่งเป็นนักโทษคดีพรากผู้เยาว์ในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช โดยวิธีการส่งจะใช้วิธีขว้างข้ามกำแพงเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชให้ลงไปที่แดน 6 จากนั้นเมื่อนายธีระพงษ์เก็บก้อนดินน้ำมันที่ขว้างข้ามกำแพงได้แล้วก็จะโอนเงินค่ายาไอซ์ถุงละ 10,000 บาท, ค่าโทรศัพท์มือถืออีกเครื่องละ 10,000 บาท รวมจำนวนเงินที่นายธีระพงษ์ พลราม นักโทษในเรือนจำจะต้องโอนเงินเข้าบัญชีตนค่ายาไอซ์และค่าโทรศัพท์มือถือจำนวน 80,000 บาท

“โดยเมื่องานสำเร็จนายธีระพงษ์ก็จะโทรศัพท์สั่งให้พรรคพวกนอกคุกโอนเงินเข้าบัญชีให้ตนทันที แต่ถูกตำรวจจราจร สภ.ท่าศาลา ตาไวดักตรวจค้นจับกุมได้พร้อมของกลางจำนวนมากดังกล่าว โดยที่ผ่านมาใช้วิธีการดังกล่าวคือใช้ดินน้ำมันห่อหุ้มโทรศัพท์มือถือพร้อมยาไอซ์ยัดใส่กล่องนมแล้วห่อด้วยดินน้ำมันอีกชั้นหนึ่ง ไปขว้างกำแพงเรือนจำส่งให้ลูกค้าสำเร็จมาแล้ว 3 เครื่อง ได้เงินมาจำนวนกว่า 60,000 บาท”

ต่อมา พ.ต.ท.ปรีชา ศรีสุกุล สวป.สภ.ท่าศาลา ได้สั่งตำรวจออกทำการสืบสวนขยายผลกวาดล้างจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดแก๊งนี้ต่อไปและขยายผลจับกุมแก๊งยาเสพติดในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชตามนโยบายของ ผบช.ภ.8 ต่อไปแล้ว

ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น: