วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

สาวเมืองคอนซวย เจอโนติส ธนาคารออมสิน บอกเป็นหนี้ 50,000 บาท เตรียมฟ้องแพ่ง-อาญา

สาวเมืองคอนติดเครดิตบูโร เหตุเป็นหนี้ ธ.ออมสิน สาขาบางกรวย 50,000 บาท โดยไม่รู้ตัว ร้อง ธนาคารต้นเหตุรับผิดชอบ-เตรียมยื่นฟ้องกลับฐานไม่ได้กู้จริง

วันที่ 9 ก.ย.53 นางเบญจมาศ ชูชีพ อายุ 48 ปี อยู่ 89 ม.3 ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย นายอัครพล หนูทวี ในฐานะทนายความ พร้อมด้วยหลักฐานเป็นเอกสารที่ออกโดยธนาคารออมสิน สาขาบางกรวย 9/99 ม.3ต.วัดชะลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เลขที่ นบ.ก.(สช.) 100/2553 ถึง นางเบญจมาศ ชูชีพ และ น.ส.พัชรินทร์ ชมพู่ ในฐานะผู้ค้ำประกัน

โดยมี นายวิสุทธิ์ พุฒิกรดุรงค์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจเป็นผู้ลงนาม เพื่อทวงถามถึงภาระหนี้จากการกู้เงินธนาคารออมสินสาขาบางกรวยเป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท รวมดอกเบี้ย 58,949.44 บาท ซึ่ง นางเบญจมาศ ระบุว่า ภาระหนี้ที่ระบุมานั้น ตนเองไม่เคยไปกู้ยืมเงินจากธนาคารออมสิน สาขาบางกรวย แต่อย่างใด

นางเบญจมาศ ชูชีพ เปิดเผยว่า หนังสือฉบับนี้เป็นฉบับที่ 2 ที่ได้รับในระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งรู้สึกแปลกใจที่ชื่อสกุล ที่อยู่ตรงกับตัวเองทุกประการส่วนผู้ค้ำประกันนั้น ไม่เคยรู้จักมาก่อน และหนี้ 50,000 บาท ที่ไปกู้จากธนาคารออมสิน สาขาบางกรวย แห่งนี้ ไม่เคยไปยื่นกู้เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม นางเบญจมาศ กล่าวว่า เมื่อราว 2 ปีก่อน เคยยื่นกู้ไว้ที่ธนาคารออมสิน สาขาท่าศาลา วงเงิน 200,000 บาท โดยมีหลักทรัพย์เป็นโฉนดไปค้ำประกัน แต่ได้ไถ่ถอนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตนก็ได้ทวงถามสัญญาที่กู้ยืมกับพนักงานคนหนึ่งที่นั่น แต่ได้รับคำตอบว่าเผาไปแล้ว จึงเป็นจุดที่น่าสงสัยว่าเอกสารอาจจะถูกนำไปทำอะไรต่อ จนเป็นเหตุให้เกิดหนี้สินในครั้งนี้

นางเบญจมาศ กล่าวต่อว่า ได้ไปยื่นเอกสารทำโอดีกับธนาคารกสิกรไทย กรุงไทย กรุงเทพ เพื่อเบิกเงินทำธุรกิจ ปรากฏว่า ทางธนาคารเหล่านั้นได้ปฏิเสธบอกว่าติดภาระเครดิตบูโร ทั้งที่ไม่เป็นหนี้ใคร และเมื่อสอบถามเหตุผลธนาคารไม่สามารถให้คำตอบได้ จนกระทั่งได้รู้เมื่อมีเอกสารนี้ทวงหนี้ปรากฏขึ้น แม้แต่สามีและลูกไปทำบัตรเครดิตยังไม่ได้ เพราะมีนามสกุลนี้ จึงทำให้เสียโอกาสเสียหายทางธุรกิจที่ทำอยู่อย่างมากทั้งธุรกิจขนส่งขนาดเล็ก สวนยางพารา ค้าเครื่องอุปโภคบริโภค เป็นต้น

“จึงได้สอบถามไปยังธนาคารออมสิน สาขาบางกรวย ทางโทรศัพท์แต่ได้รับคำตอบว่าขอโทษเป็นความผิดพลาด แล้วฉันติดเครดิตบูโรใครช่วยได้หรือไม่”นางเบญจมาส กล่าว

ขณะที่ นายอัครพล หนูทวี ทนายความของนางเบญจมาศ กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นคงต้องดำเนินการกับธนาคารออมสิน ทั้งทางแพ่งและทางอาญา การส่งเอกสารเช่นนี้ถือเป็นการแพร่ข่าวไขข่าวอันเป็นเท็จระบุฐานะของผู้รับชัดเจน

“ขั้นแรกจะต้องไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หลังจากนั้น จะมาพิจารณาถึงฐานานุรูปของผู้เสียหาย ซึ่งประกอบกิจการขนส่ง เกษตรกรรม จำหน่ายเครื่องอุปโภคบริโภค เสียสิทธิในการทำธุรกรรม และการเบิกเงินสดหมุนเวียนลงทุนค้าขายกับสถาบันการเงิน เข้าใจว่าความเสียหายเป็นหลักล้าน คงจะฟ้องร้องในส่วนนี้ด้วย” ทนายความของนางเบญจมาศ ระบุ

ข้อมูล...ผู้จัดการ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น: