โผล่อีกเรียกร้องค่าชดเชยบุกทวงถามสิทธิได้รับเงินชดเชยเครื่องมือประมงเสียหายปี 53 จังหวัดนครศรีฯยอมรับผิดปิดงบก่อนหนังสือมาถึง เร่งขออนุมัติงบ 4 ล้านจ่ายด่วน
วันที่ 22 เม.ย.54 บริเวณสนามหน้าศาลากลาง ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้มีกลุ่มชาวประมงจากอำเภอปากพนังกว่า 50 คน นำโดยนายไพโรจน์ รัตนรัตน์ สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลปากพนังฝั่งตะวันออกเดินทางมายื่นหนังสือให้กับนายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อสอบถามสิทธิเงินช่วยเหลือเครื่องมือการทำประมง แก่ชาวประมงที่ประสบเหตุภัยพิบัติในปี 2553 ซึ่งเงินดังกล่าว ตามมติของ ครม.ให้กรมประมงรับหน้าที่ดำเนินการ โดยมอบหมายให้ทางจังหวัดนำเงินทดรองจ่ายของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมีอยู่ นำมาเบิกจ่ายทดแทนให้ชาวประมงที่ประสบอุทกภัยและวาตภัย ปี 2553 ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลาไล่เลี่ยกันได้มีกลุ่มชาวบ้านกว่า 500 คน จาก ม.1, 3, 6, 9 และ 12 จากตำบลทรายขาว อ.หัวไทร นำโดย นายสุนทร รักเมือง และ นายสวย นุ่นนุ่ม ส.อบต.ม.3 ตำบลทรายขาว ร่วมกับนายอรุณ มีลาย ส.อบต.ม.1 และ อบต.ม.6, 9 และ 12 จากตำบลทรายขาว เดินทางมายื่นหนังสือกับนายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ในการทวงถามเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท ของผู้ประสบภัยน้ำท่วมปี 2553
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า การเดินทางมาของกลุ่มดังกล่าวเป็นการเดินทางมาโดยไม่ได้มีการนัดหมาย แต่เมื่อทั้ง 2 กลุ่มมาพบกัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อมายื่นหนังสือทวงถามเรื่องเงินชดเชยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ปี 2553 จากนั้นจึงมาเปิดเวทีปราศรัยร่วมกัน นายไพโรจน์ กล่าวว่า การที่ชาวบ้านจากอำเภอหัวไทร มาเจอกับชาวประมง อ.ปากพนัง โดยไม่ได้มีการนัดหมายนั้น แสดงให้เห็นว่าชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยและวาตภัยปี 53 ยังคงเดือดร้อนและยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ
“พวกผมเคยมายื่นหนังสือให้กับผู้ว่าฯ ได้รับคำตอบว่าให้ไปยื่นกับหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ตนได้ไปยื่นกับนายสาธิต วงศ์หนองเตย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งเดินทางมาที่ อ.ปากพนัง เพื่อทวงถามเรื่องดังกล่าว ได้รับคำตอบว่า ส่งเรื่องให้กรมประมงดำเนินการแล้ว โดยกรมได้มอบหมายให้แต่ละจังหวัดเอางบจาก ปภ.จังหวัด แต่ ปภ.บอกว่างบ หมด ตนเดินไปตามเรื่องทุกที่หมุนเป็นวงกลมแล้วยังไม่ได้คำตอบ วันนี้จึงมาเพื่อขอพบผู้ว่าฯ ว่าจะเอาอย่างไรกัน มาถึงผู้ว่าฯ ก็ไม่อยู่ไปรวมพลที่ อ.สิชล ฟื้นฟูกัน แต่ความเดือดร้อนในปี 2553 ตรงนี้จะทำอย่างไร” นายไพโรจน์กล่าว
ขณะที่ นายสวย นุ่นนุ่ม ส.อบต.ม.3 กล่าวว่า วันนี้พวกเราเดินทางมาเฉพาะ ต.ทรายขาว ซึ่งมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนทั้งสิ้น 12 หมู่บ้าน เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา ทางธนาคารติดต่อกลับมา บอกว่า ม.1, 3, 6, 9 และ 12 จากตำบลทรายขาวไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินชดเชยดังกล่าว เนื่องจากไม่ตรงตามเกณฑ์ ตนไม่เข้าใจ ต.ทรายขาวท่วมทั้งตำบล ได้เพียง 7 ตำบล อีก 5 ตำบลไม่ได้ หมายความว่าอย่างไร รัฐบาลไม่มีมาตรฐานที่จะรองรับเลยหรือ ใช้ดาวเทียมเป็นตัวตรวจวัดเช่นนั้นหรือ
“ผมต้องการให้จังหวัดแก้ปัญหาให้กับชาวบ้าน ไม่ต้องการให้อยู่เฉย การช่วยเหลือไม่เหมือนกัน คนบ้านเดียวกันกินข้าวไม่เหมือนกัน บางคนได้กินบางคนไม่ได้กิน วันนี้รัฐบาลมาสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในชุมชน”
ต่อมานายเดชา กังสนันท์ ปลัดจังหวัดได้เป็นตัวแทนออกมารับเรื่องพร้อมนำแกนนำเข้าไปร่วมประชุมชี้แจงยังชั้น 3 ศาลากลาง โดยนายเดชา กล่าวว่า ในเรื่องของประมงนั้นทางจังหวัดยอมรับผิด เนื่องจากหนังสือสั่งการมาถึงจังหวัดวันที่ 30 มีนาคม ขณะที่จังหวัดได้สั่งปิดงบฉุกเฉินไปก่อนหน้าที่หนังสือสั่งการจะมาถึง ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติตามกรมประมงได้
อย่างไรก็ตามนายเดชา จึงได้ส่งหนังสือด่วนออกจากจังหวัดไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี เลขที่ 0034/8061 ลงวันที่ 22 เมษายน 2554 ถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อของบจากส่วนกลางจำนวน 4 ล้านบาท ในการช่วยเหลือชาวประมงที่ประสบภัยตามเกณฑ์ ประกอบด้วย อ.ท่าศาลา 84 ราย อ.ปากพนัง 103 ราย อ.เมือง 222 ราย รวม 409 ราย
นายเดชา กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องของ ต.ทรายขาวนั้นขอเรียนชี้แจงว่าจะนำหนังสือดังกล่าวส่งไปยังรัฐบาลให้เข้ามาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง ทั้งนี้ทางรัฐบาลได้เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในปี 2554 ให้แล้วเสร็จโดยเร็วก่อน หลังจากแล้วเสร็จจะส่ง ชุด คชอ.จากส่วนกลางที่ลงมาทำหน้าที่ตรวจสอบที่จังหวัด เข้าทำการตรวจสอบในพื้นที่ที่มีปัญหาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานภายหลังจากที่ทราบเรื่องการเร่งให้ความช่วยเหลือดังกล่าว นายไพโรจน์จึงทวงถามความช่วยเหลือในพื้นที่ ต.แหลมตะลุมพุก ปากพนังฝั่งตะวันออก บางนบ อ.ปากพนัง และ ต.เกาะเพชร หน้าสตน ของปี 54 ซึ่งทางจังหวัดจะต้องแก้ไขหนังสือที่จะส่งด่วนไปถึงสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป ทั้งนี้ก่อนหน้านี้หากไม่มีการท้วงติง การช่วยเหลือเงินน้ำท่วม 5,000 บาท ในพื้นที่ปากพนังต้องมีปัญหาต่อไปอีก
หลังจากนั้นแกนนำจึงลงมาแจ้งให้กับผู้ร่วมชุมนุมในครั้งนี้จึงได้สลายตัวไปในเวลา 15.00 น.โดยทิ้งท้ายว่า ให้เวลากับทางจังหวัด15 วัน หากเรื่องยังเงียบจะมีการเข้าติดตามทวงถามในเรื่องนี้ต่อไป.
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น