วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ชาวบ้านช่วยกันไล่ช้างป่า 5-6 ตัว กลับพบตอไม้ถูกโค่นขนาด 6 คนโอบ


ชาวบ้านร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เข้าทำการขับไล่ช้างป่า 5-6 ตัว หลังพบลงมาหากินในสวนผลไม้แล้วไม่ยอมเข้าป่าลึก จนหวาดผวาเกรงจะได้รับอันตราย ขณะค้นหาช้าง พบตอไม้ขนาด 5-6 คนโอบโดนตัดโค่นบนสันเขา คาดใช้ช้างบ้านลากซุงลงไป      
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 18 ก.พ.56 ตั้งแต่ช่วงเช้า จนถึง 16.30 น. ชาวบ้านในพื้นที่บ้านวังลุง ม.1 และ ม.6 นำโดย นายนายเฉลิม กาญจนพิทักษ์ ผู้ใหญ่บ้านเก้ากอ ม.1 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านของ 2 หมู่บ้านดังกล่าว ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่า มีนายวิรัตน์ ทองย้อย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาหลวง น้ำตกพรหมโลก อ.พรหมคีรี สนธิกำลังจำนวนประมาณ 50 นาย เดินทางเข้าป่าในพื้นที่ของ 2 หมู่บ้านดังกล่าว เพื่อช่วยกันขับไล่โขลงช้างป่าที่ลงมาจากเทือกเขาหลวง 5-6 ตัว เข้ามาหากินอยู่ในสวนผลไม้ สวนยางพารา นานกว่า 15 วันแล้ว จนชาวบ้านไม่กล้าออกจากบ้านไปประกอบอาชีพ ทั้งเก็บผลไม้ และทำสวนยางพารา เนื่องจากเกรงว่าช้างจะทำอันตราย เพราะชาวบ้านที่ไปเจอกับโขลงช้างนั้นโดนไล่มาแล้วหลายราย
          ทั้งนี้ ก่อนเดินทาง นายวิรัตน์ ทองย้อย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ น้ำตกพรหมโลก อ.พรหมคีรี เปิดเผยว่า การขับไล่ช้างป่าได้สอบถามผู้รู้ก็ได้รับคำตอบว่า ใช้เสียงขับไล่ แต่การใช้เสียงนั้นคิดว่าไม่เหมาะกับป่าลึก เพราะยังมีสัตว์อื่นๆ จะได้รับผลกระทบจึงใช้วิธีจุดยางรถยนต์แทน เพราะมันมีกลิ่น และควันไฟนั้นช้างจะไม่ชอบ โดยสาเหตุที่ช้างลงมาหาหินในสวนของชาวบ้าน คิดว่ามีต้นไม้เป็นอาหารช้างอุดมสมบูรณ์ ถึงช่วงนี้มันลงมาหากินทุกปี ซึ่งคิดว่ามันคงเข้ามาหาในพื้นที่นี้ไม่นานมาก และอีกไม่นานก็จะออกไปหาที่อื่นอีก ซึ่งการดำเนินการในครั้งนี้ได้ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ รวมทั้งฝ่ายปกครองของอำเภอพรหมคีรี เพื่อไล่ช้างให้ออกไปหากินที่ป่าลึก เพราะชาวบ้านบอกว่า ตอนนี้ไม่ต้องทำมาหากินกันแล้ว เนื่องจากเกรงว่าช้างป่าจะทำอันตรายได้
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้าป่าขับไล่ช้างนั้น ได้มีการแบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด แยกย้ายกันออกตามหาว่าช้างป่าดังกล่าวหากินอยู่บริเวณใด พร้อมกับใช้เฮลิคอปเตอร์ออกค้นหา ซึ่งได้เดินขึ้นไปบนสันเขาต่างๆ และพบร่องรอยของช้างจำนวนมาก ทั้งมูลช้าง รอยเท้า ร่องรอยที่พัก และต้นไม้ที่โดนช้างกัดกิน แต่อย่างไรก็ตาม การค้นหาช้างป่าในครั้งนี้ไม่พบตัวแต่อย่างใด ซึ่งคาดว่าขณะที่เจ้าหน้าที่นำเฮลิคอปเตอร์บินหานั้น อาจจะทำให้ช้างตกใจ และได้พยายามซ่อนตัว รวมทั้งกลิ่นควันไฟที่มีการจุดขึ้นเป็นจุดๆ อาจทำให้ช้างหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะเข้าถึงตัว แต่ขณะที่ที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการค้นหาช้างนั้น ปรากฏว่า บนสันเขาดังกล่าวได้พบตอไม้ขนาดใหญ่มาก คาดว่าน่าจะ 5-6 คนโอบถูกตัดโค่นแล้วใช้ช้างบ้านทำการชักลากหลายต้นด้วยกัน
          นายเฉลิม กาญจนพิทักษ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี กล่าวว่า ช้างป่าโขลงนี้น่าจะมีประมาณ 5-6 ตัว จะลงมาหากินในพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน ซึ่งในแต่ละปีก็จะลงมาหากินประมาณ 1 สัปดาห์ แต่ในปีนี้ลงมาหากินอยู่นานกว่าปกติ ซึ่งพบว่า ช้างป่าโขลงนี้ค่อนข้างดุร้ายเพราะมีลูกช้างเพิ่งเกิดอยู่ในโขลง จึงหวงลูก แต่เท่าที่ได้สังเกตการณ์พบว่ามันอยู่ตามประสามัน ซึ่งสวนผลไม้ และสวนยางพาราก็ไม่ได้รับความเสียหายมากนัก หากเราอยู่กันโดยไม่ระรานกัน หรือสร้างความคุ้นเคยกับมันก็จะไม่มีอันตราย ผลกระทบที่ได้รับเล็กน้อยคิดว่าน่าจะไม่เป็นอะไรมาก
      
       “ที่ผ่านมาพบว่า มีควาญช้างในพื้นที่พยายามจะเข้าไปจับลูกช้างเพื่อเอามาเลี้ยง ทำให้มันยิ่งมีความดุร้าย ถ้ามองอีกอย่างหนึ่งคิดว่าเราน่าภูมิใจ เพราะช้างป่าลงมาหากินในบริเวณดังกล่าว เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแห่งนี้ หากพื้นที่ไม่สมบูรณ์ช้างป่าก็ไม่ลงมาอยู่อาศัยแน่ จริงๆ แล้วอยากให้ชาวบ้านอดทนกันสักนิด มันอาจจะกลับไปเองในอีกไม่ช้านี้ ซึ่งตนเข้าใจดีว่า ชาวบ้านก็ต้องทำมาหากิน หากปล่อยให้สถานการณ์เช่นนี้นานออกไป อาจจะทำให้ชาวบ้านตัดสินใจหาวิธีการขับไล่ช้างในแบบอื่น จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเข้าทำการไล่ให้มันกลับเข้าป่าลึกเหมือนเดิมนายเฉลิมกล่าว
โดย.. ASTV Manager ภาคใต้

ไม่มีความคิดเห็น: