วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554

ปิดตำนานร่างทรงจตุคามรามเทพ “อะผ่อง สกุลอมร” เสียชีวิตแล้ว

นายอผ่อง สกุลอมร หรือ โกผ่องร่างทรงขององค์จตุคามรามเทพ เสียชีวิตแล้ว หลังจากป่วยด้วยโรคไต มาเป็นเวลากว่า 5 ปี
              วันที่ 6 ก.ย.54 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอผ่อง สกุลอมร หรือ โกผ่องร่างทรงขององค์จตุคามรามเทพ ตั้งแต่เมื่อปี 2530 อันมีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นหนึ่งในคณะผู้ริเริ่มสร้างศาลหลักเมือง นครศรีธรรมราช ได้ถึงแก่อนิจกรรมลงแล้วที่ รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช หลังจากที่ป่วยกระเสาะกระแสะด้วยโรคไต มาเป็นเวลากว่า 5 ปีติดต่อกัน
     
       นายอนันต์ สกุลอมร หรือ โกฉ้าน้องชายของนายอผ่อง สกุลอมร เปิดเผยว่า นายอผ่อง สกุลอมร ได้เสียชีวิตลงเมื่อเวลา 18.12 ของวันนี้ (6 ก.ย.) ที่ รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช ซึ่งตลอดกว่า 5 ปีที่ผ่านมาพี่ชายได้รักษาตัวด้วยโรคไตมาโดยตลอดเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลอยู่เป็นประจำเพื่อฟอกไต ครั้งสุดท้ายได้เข้ารักษาตัวเมื่อราวสัปดาห์ที่ผ่านมา และไม่รู้สึกตัวอยู่ราว 3 วันก่อนที่จะเสียชีวิตลงในที่สุด เนื่องจากร่างกายไม่สามารถรับสภาพได้แล้วโดยรวมอายุได้ 62 ปี
     
       โดย โกผ่อง ได้สั่งความไว้ว่า หลังจากที่เสียชีวิตให้นำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดสวนหลวง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นวัดที่อยู่หน้าบ้านของโกผ่องเอง และยังผูกพันมาตั้งแต่วัยเด็กทางพี่ๆ น้องๆ จะได้นำศพของโกผ่องไปบำเพ็ญกุศลที่นั่นตามสั่ง ส่วนเรื่องขององค์พ่อจตุคามรามเทพนั้น แม้ว่า โกผ่องจะเป็นร่างทรงแต่โกผ่องพูดเรื่องนี้น้อยมาก ไม่พูดจาโอ้อวดซึ่งต้องเข้าใจว่าเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ อาจจะถูกมองได้ว่าเป็นการหลอกลวงหรืออวดอุตริ เมื่อถามว่าองค์พ่อจตุคามเป็นอย่างไรบ้างโกผ่องบอกว่า กูไม่รู้และสิ่งสำคัญที่โกผ่องยึดถือคือ องค์พ่อจตุคามรามเทพนั้นไม่ได้อยู่เหนือพระรัตนตรัยอย่างที่ใครหลายคนเข้าใจกัน องค์พ่อจตุคามรามเทพ เป็นเทพที่เป็นพุทธมามกะเช่นเดียวกันชาวพุทธทุกคน และสิ่งสำคัญนั้นโกผ่องไม่เคยขัดแย้งหรือนอกเหนือหลักของพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะในเรื่องของการเป็นร่างทรงองค์พ่อจตุคามรามเทพนายอนันต์กล่าว
     
       ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อครั้งที่วัตถุมงคลจตุคามรามเทพเริ่มอยู่ในช่วงขาลง โกผ่องได้กล่าวไว้ว่า "ที่พูดกันว่ากระแสจตุคามรามเทพหมดแล้วนั้น หากคนที่ศรัทธาจริงๆ ก็ยังคงบูชากันอยู่ ใครนับถือก็นับถือ ใครที่ไม่นับถือก็เป็นเรื่องบุคคลนั้น เพราะทุกวันนี้คนที่นับถือจริงๆ ยังศรัทธา แต่ที่ฉิบหายไปเพราะโลภไม่รู้จักพอ อยากจะบอกว่า จตุคามรามเทพนั้นอย่าโลภ หากโลภจะหมดเนื้อหมดตัวเหมือนกับตัวอย่างที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาพระบางรูปที่ยังหนุ่มยังแน่นยังลงทุนกินหมากเพื่อให้ตัวเองได้เป็นเกจิ กระแสจตุคาม มันเลยเสื่อมเร็วเพราะเรื่องเหล่านี้"
     
       สำหรับโกผ่องนั้นได้สร้างตำนานอันลือลั่นด้วยการเป็นร่างทรงองค์จตุคามรามเทพเมื่อปี 2528 จนกระทั่งปี 2530 ได้ร่วมกับหลายฝ่ายสร้างตำนานศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชขึ้น ส่วน โกผ่องซึ่งเป็นชาวเมืองนครศรีธรรมราช โดยกำเนิด เดิมทำหน้าที่เป็นร่างทรงในช่วงงานเทศกาลและโอกาสที่สำคัญๆ โกผ่องได้เล่าถึงที่มาของท้าวจตุคามรามเทพว่า ในปี 2528 พันตำรวจเอกสรรเพชญ ธรรมาธิกุล (ยศในขณะนั้น) ได้เดินทางมารับตำแหน่งผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นการกลับมารับตำแหน่งในบ้านเกิดเมืองนอนหลังจากที่ต้องไปรับราชการในจังหวัดอื่นๆ มานาน ก่อนที่จะเดินทางมายังเมืองนครศรีธรรมราช พันตำรวจเอกสรรเพชญ ได้ฟังคำแนะนำจากท่านผู้รู้คนหนึ่งที่ว่าที่เมืองนครศรีธรรมราชมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอยู่ หากพันตำรวจเอกสรรเพชญ ปรารถนาอยากจะเจอให้เอาเอง โดยให้ไปทางทิศตะวันออกของเมือง จนกระทั่งมีเรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อที่มาประจวบเหมาะกันอย่างปาฏหารณ์หลายครั้ง
     
       อย่างไรก็ตาม ต่อมานายอผ่อง พร้อมด้วยพี่ๆ น้องๆ ได้ถูก พล.ต.ท.สรรเพชญ์ ธรรมาธิกุล ซึ่งมีความขัดแย้งกันภายในได้ยื่นฟ้องเกี่ยวกับกรณีลิขสิทธิ์การทำวัตถุมงคลองค์จตุคามรามเทพ มีการสู้คดีกันจนถึงชั้นศาลฎีกา โดยตลอดทั้ง 3 ศาลได้พิพากษายกฟ้อง โกผ่อง และพี่ๆน้องๆ มาโดยตลอด ซึ่งถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ของนครศรีธรรมราช ก็ว่าได้ กระทั่งมาในวันนี้การถึงแก่อนิจกรรมของนายอผ่องเป็นการปิดตำนานร่างทรงต้นฉบับองค์จตุคามรามเทพโดยแท้
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น: