ผู้ตรวจราชการแผ่นดินลงพื้นที่ เตรียมจัดสรรที่ดินตั้งหมู่บ้านใหม่ให้กับชาวแหลมตะลุมพุก 600 ครัวเรือน ทดแทนพื้นที่เก่าที่เสี่ยงต่อการเกิดเหตุคลื่นลมแรง หลังจากพื้นที่ถูกกัดเซาะและบ้านพังเสียหาย
วันที่ 10 ก.ค.54 นายจำเริญ ยุติธรรมสกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางลงพื้นที่บ้านแหลมตะลุมพุก ตำบลแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเข้าตรวจสอบสภาพพื้นที่และติดตามความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่หลังจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 3 พ.ค.2554 ให้ประชาชนในพื้นที่หมู่ที่ 1, 2 และ 3 ของตำบลแหลมตะลุมพุก จำนวน 600 ครัวเรือน เข้าใช้พื้นที่บริเวณป่าชายเลนซึ่งมีระยะห่างจากบริเวณที่อยู่อาศัยเดิมประมาณ 300 เมตร เพื่อเข้าอาศัยแทนพื้นที่เดิมที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุคลื่นลมแรง และขณะนี้การดำเนินการอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมคาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้
นายจำเริญ ยุติธรรมสกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 3 พ.ค.2554 ให้ประชาชนจาก 600 ครัวเรือน เข้าใช้พื้นที่ป่าชายเลน จำนวน 150 ไร่ เพื่อเข้าอยู่อาศัยทดแทนพื้นที่เดิมที่ต้องได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์คลื่นลมกระโชกแรงเป็นประจำทุกปี และล่าสุด จากเหตุการณ์อุทกภัยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ความรุนแรงของสถานการณ์ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนพังเสียหาย คลื่นกัดเซาะพื้นดินในหมู่บ้านเข้าไปในเขตที่อยู่อาศัยของประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก
สำหรับพื้นที่ป่าชายเลนในเขตพื้นที่ตำบลแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง มีเนื้อที่ครอบคลุมกว่า 28,000 ไร่ และในการขอเข้าใช้พื้นที่ครั้งนี้มีประชาชนที่เดือดร้อนแจ้งความประสงค์ขอใช้พื้นที่ จำนวน 600 ครัวเรือน รวมเนื้อที่ 150 ไร่ ซึ่งถือว่าไม่มากส่วนเขตหมู่บ้านเดิมจะกลายเป็นที่ดินสาธารณสมบัติ
ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากนี้จะมีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อดูแลการอพยพประชาชนทั้ง 600 ครัวเรือน ดังกล่าวให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนการดำเนินการหลังจากนั้นจะได้เร่งส่งเสริมดำเนินการด้านวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น และการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ทั้งนี้เพื่อให้เกิดรายได้แก่ประชาชนที่ยั่งยืน
ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มเติมอีกว่า นายจำเริญ ยุติธรรมสกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้ช่วยเลขานุการ คชอ.และเลขานุการศูนย์ประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ได้เดินทางต่อเข้าตรวจติดตามการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อใช้ในการก่อสร้างบ้านตามโครงการ “เรินน้ำใจ” และติดตามการฟื้นฟูเพื่อการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ที่เป็นงบกลาง จำนวน 370 ล้านบาท ของจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะในเรื่องของการก่อสร้างบ้านของประชาชนที่ได้รับคามเสียหายทั้งหลัง จำนวน 337 หลังคาเรือน การให้ความช่วยเหลือระยะแรก 232 หลัง ประกอบด้วย บ้าน “เรินน้ำใจ” 125 หลัง และส่วนอื่นๆ ภาคเอกชนได้เข้าร่วมอีกเป็นจำนวนมาก เป็นที่น่าพอใจในความช่วยเหลือเป็นอย่างยิ่ง
วันที่ 10 ก.ค.54 นายจำเริญ ยุติธรรมสกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางลงพื้นที่บ้านแหลมตะลุมพุก ตำบลแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเข้าตรวจสอบสภาพพื้นที่และติดตามความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่หลังจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 3 พ.ค.2554 ให้ประชาชนในพื้นที่หมู่ที่ 1, 2 และ 3 ของตำบลแหลมตะลุมพุก จำนวน 600 ครัวเรือน เข้าใช้พื้นที่บริเวณป่าชายเลนซึ่งมีระยะห่างจากบริเวณที่อยู่อาศัยเดิมประมาณ 300 เมตร เพื่อเข้าอาศัยแทนพื้นที่เดิมที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุคลื่นลมแรง และขณะนี้การดำเนินการอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมคาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้
นายจำเริญ ยุติธรรมสกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 3 พ.ค.2554 ให้ประชาชนจาก 600 ครัวเรือน เข้าใช้พื้นที่ป่าชายเลน จำนวน 150 ไร่ เพื่อเข้าอยู่อาศัยทดแทนพื้นที่เดิมที่ต้องได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์คลื่นลมกระโชกแรงเป็นประจำทุกปี และล่าสุด จากเหตุการณ์อุทกภัยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ความรุนแรงของสถานการณ์ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนพังเสียหาย คลื่นกัดเซาะพื้นดินในหมู่บ้านเข้าไปในเขตที่อยู่อาศัยของประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก
สำหรับพื้นที่ป่าชายเลนในเขตพื้นที่ตำบลแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง มีเนื้อที่ครอบคลุมกว่า 28,000 ไร่ และในการขอเข้าใช้พื้นที่ครั้งนี้มีประชาชนที่เดือดร้อนแจ้งความประสงค์ขอใช้พื้นที่ จำนวน 600 ครัวเรือน รวมเนื้อที่ 150 ไร่ ซึ่งถือว่าไม่มากส่วนเขตหมู่บ้านเดิมจะกลายเป็นที่ดินสาธารณสมบัติ
ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากนี้จะมีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อดูแลการอพยพประชาชนทั้ง 600 ครัวเรือน ดังกล่าวให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนการดำเนินการหลังจากนั้นจะได้เร่งส่งเสริมดำเนินการด้านวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น และการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ทั้งนี้เพื่อให้เกิดรายได้แก่ประชาชนที่ยั่งยืน
ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มเติมอีกว่า นายจำเริญ ยุติธรรมสกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้ช่วยเลขานุการ คชอ.และเลขานุการศูนย์ประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ได้เดินทางต่อเข้าตรวจติดตามการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อใช้ในการก่อสร้างบ้านตามโครงการ “เรินน้ำใจ” และติดตามการฟื้นฟูเพื่อการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ที่เป็นงบกลาง จำนวน 370 ล้านบาท ของจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะในเรื่องของการก่อสร้างบ้านของประชาชนที่ได้รับคามเสียหายทั้งหลัง จำนวน 337 หลังคาเรือน การให้ความช่วยเหลือระยะแรก 232 หลัง ประกอบด้วย บ้าน “เรินน้ำใจ” 125 หลัง และส่วนอื่นๆ ภาคเอกชนได้เข้าร่วมอีกเป็นจำนวนมาก เป็นที่น่าพอใจในความช่วยเหลือเป็นอย่างยิ่ง
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น