ชาวบ้านพบศพหนุ่มนิรนาม 2 ศพ เสียชีวิตคากระท่อมร้างในสวนทุเรียน ต.ตลิ่งชัน อ.ท่าศาลา สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนอาก้า จากการสอบถามไม่ใช้คนในพื้นที่ ตำรวจคาดปมขัดแย้งธุรกิจมืด
วันที่ 12 ก.ค.54 พ.ต.ท. ชริส พุทธกูล พนักงานสอบสวนเวร สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราชได้รับแจ้งพบศพถูกฆาตกรรมโดยการใช้อาวุธสงคราม ถึง 2 ศพซ้อน ในกระท่อมกลางสวนทุเรียน ท้องที่ หมู่ 7 ต.ตลิ่งชัน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช หลังจากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ. อดุลย์ ธนชัยขันธ์ ผกก.สภ.ท่าศาลา พ.ต.ท.ประเสริฐ นาคคง รอง ผกก.ป., พ.ต.ท.วุฒิพงศ์ ฐิติสโรจน์ รอง ผกก.สส. สายตรวจท้องที่ แพทย์เวรชันสูตรโรงพยาบาลท่าศาลา เจ้าหน้าที่กองวิทยาการเขต 43 นครศรีธรรมราช
ที่เกิดเหตุพบว่าเป็นสวนทุเรียนทวายเนื้อที่กว่า 70 ไร่ กลางสวนมีกระท่อมร้างปลูกอยู่กลางสวนทุเรียน ภายในพบศพผู้เสียชีวิต 2ศพ ศพแรกอยู่ด้านล่างกระท่อมเป็นชายไทย ไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 25-27 ปี ผิวดำแดง สูงประมาณ 160 ซม. ไว้ผมยาวประบ่า สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ กางเกงยีนส์สีดำ นอนตายในลักษณะคว่ำหน้ากับพื้นโดยมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสนปืนอาก้า เข้าที่ใบหน้าและลำตัวรวม 5 นัด บาดแผลเหวอะหวะ
ส่วนศพที่ 2 เป็นชายไทยไม่ทราบชื่อเช่นกัน อายุประมาณ 30 ปี ผิวดำแดง สูงประมาณ 160 ซม. สวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ นอนตายในลักษณะคว่ำหน้าอยู่บนกระท่อม โดยมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนอาก้า เข้าที่ศีรษะจนกะโหลกศีรษะเปิดหายไปทั้งแถบ มันสมองกระจายเกลื่อนบริเวณ
ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนอาก้าตกอยู่ 6 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้บริเวณที่เกิดเหตุยังพบอุปกรณ์การเสพยาบ้า ยาไอซ์ อยู่ในกระท่อมหลายชุด ขวดน้ำอัดลมขนาด 1.5 ลิตรในขวดมีน้ำต้มพืชกระท่อมเหลืออยู่เล็กน้อย และยังพบว่ามีการปอกผลทุเรียนรับประทาน เปลือกทุเรียนกระจายเกลื่อน
พ.ต.อ.อดุลย์ ธนะชัยขันธ์ ผกก.สภ.ท่าศาลา เผยว่า เจ้าหน้าที่พยายามรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทราบว่าผู้ตายทั้งสองรายเป็นใครมาจากไหน สอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงไม่มีใครรู้จักมาก่อน โดยทราบว่าเมื่อ 2 วันที่ผ่านมาผู้ตายทั้งสองได้ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาวนเวียนป้วนเปี้ยนในหมู่บ้านและขับเข้าๆ ออกๆ ในสวนทุเรียนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานในเบื้องต้นว่าผู้ตายทั้งสองน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือพัวพันกับธุรกิจมืดในพื้นที่ แล้วเกิดการหักหลังกันเองจนผู้ตายต้องหลบหนีมาซ่อนตัวในกระท่อมร้างกลางสวนทุเรียนแล้วถูกตามฆ่าล้างแค้นดังกล่าวก็ได้
“ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 02.00 น.ชาวบ้านได้ยินเสียงปืนดังติดต่อกันหลายนัด แต่ไม่มีใครกล้าออกมาดูจนกระทั่งรุ่งเช้าชาวบ้านมาพบผู้ตายทั้งสองถูกยิงตายบริเวณกระท่อมกลางสวนทุเรียน ดูจากหลักฐานพอเชื่อได้ว่าว่าผู้ตายทั้งสองได้ร่วมกันเสพยาบ้า ยาไอซ์ และน้ำต้มพืชกระท่อม ก่อนจะไปเก็บทุเรียนมาปอกกินกัน จนกระทั่งมีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2-3 คน ซึ่งเชื่อว่าเป็นแก๊งธุรกิจมืดในพื้นที่ที่โดนผู้ตายหักหลังทราบว่าผู้ตายทั้งสองหลบหนีมาซ่อนตัวในกระท่อมที่เกิดเหตุ จึงตามมาคิดบัญชีแค้นโดยใช้ปืนอาก้ายิงถล่มจนเสียชีวิตคากระท่อม 1 รายส่วนอีกรายพยายามที่จะวิ่งหลบหนีลงมาจากกระท่อมจึงถูกยิงเป็นรายต่อมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีว่าผู้ตายทั้งสองเป็นใครมาจากไหนเพื่อเชื่อมโยงตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไปแล้ว” ผกก.สภ.ท่าศาลาระบุ
วันที่ 12 ก.ค.54 พ.ต.ท. ชริส พุทธกูล พนักงานสอบสวนเวร สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราชได้รับแจ้งพบศพถูกฆาตกรรมโดยการใช้อาวุธสงคราม ถึง 2 ศพซ้อน ในกระท่อมกลางสวนทุเรียน ท้องที่ หมู่ 7 ต.ตลิ่งชัน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช หลังจากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ. อดุลย์ ธนชัยขันธ์ ผกก.สภ.ท่าศาลา พ.ต.ท.ประเสริฐ นาคคง รอง ผกก.ป., พ.ต.ท.วุฒิพงศ์ ฐิติสโรจน์ รอง ผกก.สส. สายตรวจท้องที่ แพทย์เวรชันสูตรโรงพยาบาลท่าศาลา เจ้าหน้าที่กองวิทยาการเขต 43 นครศรีธรรมราช
ที่เกิดเหตุพบว่าเป็นสวนทุเรียนทวายเนื้อที่กว่า 70 ไร่ กลางสวนมีกระท่อมร้างปลูกอยู่กลางสวนทุเรียน ภายในพบศพผู้เสียชีวิต 2ศพ ศพแรกอยู่ด้านล่างกระท่อมเป็นชายไทย ไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 25-27 ปี ผิวดำแดง สูงประมาณ 160 ซม. ไว้ผมยาวประบ่า สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ กางเกงยีนส์สีดำ นอนตายในลักษณะคว่ำหน้ากับพื้นโดยมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสนปืนอาก้า เข้าที่ใบหน้าและลำตัวรวม 5 นัด บาดแผลเหวอะหวะ
ส่วนศพที่ 2 เป็นชายไทยไม่ทราบชื่อเช่นกัน อายุประมาณ 30 ปี ผิวดำแดง สูงประมาณ 160 ซม. สวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ นอนตายในลักษณะคว่ำหน้าอยู่บนกระท่อม โดยมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนอาก้า เข้าที่ศีรษะจนกะโหลกศีรษะเปิดหายไปทั้งแถบ มันสมองกระจายเกลื่อนบริเวณ
ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนอาก้าตกอยู่ 6 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้บริเวณที่เกิดเหตุยังพบอุปกรณ์การเสพยาบ้า ยาไอซ์ อยู่ในกระท่อมหลายชุด ขวดน้ำอัดลมขนาด 1.5 ลิตรในขวดมีน้ำต้มพืชกระท่อมเหลืออยู่เล็กน้อย และยังพบว่ามีการปอกผลทุเรียนรับประทาน เปลือกทุเรียนกระจายเกลื่อน
พ.ต.อ.อดุลย์ ธนะชัยขันธ์ ผกก.สภ.ท่าศาลา เผยว่า เจ้าหน้าที่พยายามรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทราบว่าผู้ตายทั้งสองรายเป็นใครมาจากไหน สอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงไม่มีใครรู้จักมาก่อน โดยทราบว่าเมื่อ 2 วันที่ผ่านมาผู้ตายทั้งสองได้ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาวนเวียนป้วนเปี้ยนในหมู่บ้านและขับเข้าๆ ออกๆ ในสวนทุเรียนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานในเบื้องต้นว่าผู้ตายทั้งสองน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือพัวพันกับธุรกิจมืดในพื้นที่ แล้วเกิดการหักหลังกันเองจนผู้ตายต้องหลบหนีมาซ่อนตัวในกระท่อมร้างกลางสวนทุเรียนแล้วถูกตามฆ่าล้างแค้นดังกล่าวก็ได้
“ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 02.00 น.ชาวบ้านได้ยินเสียงปืนดังติดต่อกันหลายนัด แต่ไม่มีใครกล้าออกมาดูจนกระทั่งรุ่งเช้าชาวบ้านมาพบผู้ตายทั้งสองถูกยิงตายบริเวณกระท่อมกลางสวนทุเรียน ดูจากหลักฐานพอเชื่อได้ว่าว่าผู้ตายทั้งสองได้ร่วมกันเสพยาบ้า ยาไอซ์ และน้ำต้มพืชกระท่อม ก่อนจะไปเก็บทุเรียนมาปอกกินกัน จนกระทั่งมีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2-3 คน ซึ่งเชื่อว่าเป็นแก๊งธุรกิจมืดในพื้นที่ที่โดนผู้ตายหักหลังทราบว่าผู้ตายทั้งสองหลบหนีมาซ่อนตัวในกระท่อมที่เกิดเหตุ จึงตามมาคิดบัญชีแค้นโดยใช้ปืนอาก้ายิงถล่มจนเสียชีวิตคากระท่อม 1 รายส่วนอีกรายพยายามที่จะวิ่งหลบหนีลงมาจากกระท่อมจึงถูกยิงเป็นรายต่อมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีว่าผู้ตายทั้งสองเป็นใครมาจากไหนเพื่อเชื่อมโยงตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไปแล้ว” ผกก.สภ.ท่าศาลาระบุ
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น