วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ญาติ นย.นราฯ แห่ศพ ร้องขอความเป็นธรรม ผลชันสูตรชี้ “ไม่ได้ฆ่าตัวตาย”


ญาตินำศพ พลฯ พีรยุทธ์ เอียดจุ้ย นย.เสียชีวิตใน จ.นราฯ มาประท้วงขอความเป็นธรรมหน้าศาลากลาง จ.นครศรีฯ หลังผลชันสูตร รพ.ม.อ. ชี้ชัดว่าไม่ใช่เป็นการฆ่าตัวตาย
      
       วันที่ 14 ก.พ.56 ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายอุดร และนางประคอง เอียดจุ้ย บิดา และมารดา รวมทั้งญาติกว่า 30 คน ได้นำศพของ พลทหารพีรยุทธ์ เอียดจุ้ย ทหารนาวิกโยธิน สังกัดกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 2 กรมทหารปืนใหญ่ กองพลนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช โดยศพถูกบรรจุมาในหีบศพคลุมด้วยธงชาติ และมีภาพพลทหารพีรยุทธ์ในชุดเครื่องแบบทหารราชวัลลภ บรรทุกท้ายรถยนต์กระบะตระเวนไปทั่วตัวเมืองนครศรีธรรมราช ก่อนมาตั้งบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช
      
       เพื่อมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจาก พลทหารพีรยุทธ์ เอียดจุ้ย ได้เสียชีวิตเนื่องจากถูกยิงด้วยอาวุธปืน เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2556 เวลาประมาณ 15.00 น. ที่บริเวณหมู่ที่ 3 บ้านเปล ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยมีการสรุปในเบื้องต้นว่า พลทหารพีรยุทธ์เสียชีวิตเนื่องจากสาเหตุฆ่าตัวตาย หลังจากที่นำศพมาตั้งไว้ที่หน้าศาลากลางแล้วได้มีการปราศรัยโดยกลุ่มญาติถึงการเสียชีวิตที่มีความผิดปกติ และผิดวิสัยของการฆ่าตัวตายโดยใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ที่ไม่สามารถนำปืนเอ็ม 16 ไปจ่อยิงศีรษะตนเองมาจากกลางศีรษะ และวิถีกระสุนทะลุมาอยู่ใต้คาง รวมทั้งสภาพบาดแผลกลางศีรษะที่มีขนาดเล็ก แต่แผลออกใต้คางกลับมีขนาดใหญ่มากสอดคล้องกับอานุภาพของอาวุธปืนเอ็ม 16 แต่หากยิงตัวเองจากใต้คางแผลใต้คางต้องมีขนาดเล็ก และบนศีรษะที่เป็นแผลออกนั้นต้องกระจายแน่ ขณะเดียวกัน ยังกล่าวถึงผู้บังคับบัญชาของผู้ตายที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับญาติของผู้ตายในวันไปรับศพหลาย
          ขณะที่ นายอุดร และนางประคอง บิดา และมารดาของ พลทหารพีรยุทธ์ ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงกลาโหม กองทัพเรือ โดยผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กองทัพภาคที่ 4 เพื่อเรียกร้องถึงความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงาน เนื่องจากมั่นใจว่าพลทหารเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่เมื่อ 17 ม.ค.56 ในภารกิจสำคัญ แต่กลับถูกสรุปว่า พลทหารพีรยุทธ์ ฆ่าตัวตายด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 อย่างไม่เป็นธรรม และขัดกับรายงานการชันสูตรของแพทย์นิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อย่างชัดเจน
          โดยการร้องเรียนขอความเป็นธรรม ได้มี พ.อ.ชาญวิทย์ ปิ่นมณี รอง ผอ.รมน.นครศรีธรรมราช (รองผู้ว่าราชการจังหวัดฝ่ายทหาร) มารับหนังสือ โดยพบว่าญาติพลทหารพีรยุทธ์ได้แนบรายงานการชันสูตรของหน่วยนิติเวชศาสตร์และพิษวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งผ่าชันสูตรศพ โดย นพ.วิธู พฤกษนันท์ ได้สรุปบาดแผลของพลทหารพีรยุทธ์ ตามรายงานการชันสูตรที่ น 56016 ลงวันที่ 1 ก.พ.56 ว่า มีบาดแผลถูกยิงเข้ากลางศีรษะเป็นรูปดาว 6 แฉก พบเขม่าดินปืนจำนวนมากอยู่ด้านในศีรษะใต้ต่อบาดแผลกระสุนปืน และบริเวณรอยแตกของกะโหลกศีรษะ กระสุนปืนทะลุสมองซีกซ้าย ทะลุฐานกะโหลกศีรษะซีกซ้าย บริเวณเหนือช่องไขสันหลังเล็กน้อย ทะลุโพรงอากาศฟีนอยด์ ถากกระดูกขากรรไกรบน และล่าง แล้วทะลุออกบริเวณใต้คาง บาดแผลกระสุนปืนทางออกมีขนาด 4.0 คูณ 2.5 ซม. ไม่พบหัวกระสุนปืน วิถีกระสุนปืนถูกยิงจากบนลงล่าง และหลังมาหน้าเล็กน้อย ถูกยิงระยะประชิดติดผิวหนังรายงานการชันสูตรระบุ
          โดยรายงานการชันสูตรฉบับนี้ จึงทำให้ญาติปักใจเชื่อว่าไม่ใช่เป็นการฆ่าตัวตายเนื่องจากผิดวิสัยหากใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ซึ่งเป็นปืนยาวนั้นจะไม่สามารถยิงตัวเองได้นอกจากมีคนที่มาลอบยิงเท่านั้น จึงขัดกับการสรุปของพนักงานสอบสวน และผู้บังคับบัญชาของผู้ตาย โดยมีข้อเรียกร้องให้ทางการจัดการงานศพขอพระราชทานเพลิงศพไปตามประเพณีสมเกียรติแก่ผู้ตาย ดูแลครอบครัว และบุพการีเช่นเดียวกับผู้อื่น และดูแลเยียวยาตามความเป็นจริงเท่านั้น
           ขณะที่ พ.อ.ชาญวิทย์ ปิ่นมณี รอง ผอ.รมน.นครศรีธรรมราช รับว่าจะนำเรื่องนี้เข้าประสานกับแม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อสั่งการให้มีการตรวจสอบ พร้อมกันนั้น จะเร่งส่งหนังสือร้องเรียนตามความประสงค์ของครอบครัวของพลทหารธีรยุทธ์ไปยังแต่ละหน่วยงานอย่างเร่งด่วน
โดย.. ASTV Manager ภาคใต้

ไม่มีความคิดเห็น: