“น้องแป๊ะเท่ง” 11 ขวบรอดตายปาฏิหาริย์ หลังฟ้าผ่าหลังคาพังยับ ไฟลุกท่วมสิ่งของและที่นอนกระจุย นายอำเภอพากิ่งกาชาดเข้าปลอบขวัญเชื่อบารมี “ในหลวง-พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์” พารอดชีวิต
วันที่ 17 พ.ค.55 นายสกล จันทรักษ์ นายอำเภอฉวาง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้เกิดเหตุการณ์ฟ้าผ่า ด.ช.อนุรักษ์ รักษาพราหมณ์ วัย 11 ขวบ หรือชื่อเล่นว่า “แป๊ะเท่ง” แต่เด็กชายไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ และรอดตายอย่างน่าอัศจรรย์ โดยกิ่งกาชาดอำเภอฉวางจะเข้าไปเยี่ยมบ้าน และมอบเงินปลอบขวัญด้วย หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวจึงติดตามไปกับคณะกิ่งกาชาดเพื่อตรวจสอบถึงเรื่องเหลือเชื่อ เหนือธรรมชาติดังกล่าวทันที
พบว่า บ้านที่เกิดเหตุเลขที่ 178 ม.12 ต.ละอาย อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช เป็นบ้านของนายสมโชค สิทธิสมบูรณ์ มีลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียวปลูกสร้างอยู่ในสวนผลไม้ร่มรื่น มีเครือญาติหลายคนมารอต้อนรับคณะของนายอำเภอฉวาง หลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงรายละเอียด นายสมโชค สิทธิสมบูรณ์ เจ้าของบ้าน เล่าว่าเหตุการณ์ฟ้าผ่าได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ในเวลาราว 23.00 น.เศษ และได้พาไปดูเกิดเหตุ
โดยเริ่มจากข้างบ้าน พบมีรอยกำแพงชั้นนอกทะลุคล้ายถูกแรงระเบิดอัด มูลดินกระเด็นไปติดกับหลังคาเป็นวงกว้าง รอยทางเดินของสายฟ้าได้ไปหยุดลงที่ต้นทุเรียนพันธุ์พื้นเมือง ห่างจากบ้านไปราวเกือบ 10 เมตร และสังเกตได้ชัดว่าต้นทุเรียนเริ่มยืนต้นตายจากยอดลงมา ส่วนตัวบ้านได้มีการ เริ่มซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว
ในห้องนอนที่เกิดเหตุพบว่ามีการติดรูปของพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับพ่อท่านคล้ายเมื่อราว 50 ปีก่อน และภาพอื่นๆ ของพ่อท่านคล้ายซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของพุทธศาสนิกชนในภาคใต้
นอกจากนี้ ยังพบว่าตรงหลังคามีการเปลี่ยนกระเบื้องหลังคา ซ่อมกำแพงแล้ว แต่ยังคงมีที่ฟูกนอนซึ่งมีร่องรอยกระจุยกระจาย ไฟไหม้มุ้งกันยุงและที่นอนบางส่วน โดยฟูกที่นอนที่เสียหายยับเยินดังกล่าวนั้น ด.ช.อนุรักษ์ นอนอยู่ในขณะเกิดเหตุ
หลังจากนั้น นายสกล จันทรักษ์ นายอำเภอฉวาง ในฐานะนายกกิ่งกาชาดอำเภอฉวาง ได้มอบเงินทำขวัญให้แก่ ด.ช.อนุรักษ์ จำนวน 3,000 บาท เพื่อเป็นการบำรุงปลอบขวัญกำลังใจของ ด.ช.ที่รอดชีวิตมาได้อย่างเหลือเชื่อ
นายสกล จันทรักษ์ นายอำเภอฉวาง ระบุว่า ตนเชื่อมั่นว่าสาเหตุที่ทำให้ ด.ช.อนุรักษ์ รอดมาได้เพราะบารมีรูปของพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ ห้อยอยู่ที่คอ และในห้องยังมีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับพ่อท่าน คล้ายอยู่ด้วย
ขณะเดียวกัน ด.ช.อนุรักษ์ รักษาพราหมณ์ เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังด้วยน้ำเสียงที่ยังมีอาการตื่นเต้นว่า ช่วงที่เกิดเหตุนอนอยู่ในห้องกับลุง คือ นายยงฤทธิ์ สิทธิสมบูรณ์ อายุ 39 ปี ช่วงที่ฟ้าผ่าลุงได้ลุกจากที่นอนไปเข้าห้องน้ำพอดี
“ผมได้ยินเสียงดังสนั่นลงมาจากหลังคา จากนั้นมีฝุ่นควันคลุ้งไปทั้งห้อง ผมตกใจเนื่องจากรู้ว่าฟ้าผ่าจึงตะโกนเรียกแม่เฒ่า บอกว่าให้มาช่วยด้วย ขณะนั้นผมตัวชาขยับตัวไม่ได้ ร้อนเท้า ร้อนขาไปหมด จนแม่เฒ่ามาช่วยอุ้มออกไปจากห้อง” เด็กชายเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
ด้าน นางผิน สิทธิ์สมบูรณ์ อายุ 65 ปี ยาย หรือภาษาถิ่นเรียกว่า “แม่เฒ่า” เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ช่วงที่เกิดเหตุ ตนกำลังนอนหลับแต่ตกใจตื่นด้วยเสียงฟ้าผ่าเข้ามาในบ้าน เห็นฝุ่นควันคลุ้งอยู่ในห้องของหลาน นึกในใจแล้วว่าหลานต้องตายแน่แล้ว จึงวิ่งเข้าไปดู พบไฟกำลังลุกไหม้ที่นอนที่หลานนอนอยู่ มุ้งมีไฟลุก ประกอบกับหลานเรียก จึงเข้าไปช่วยอุ้มลากออกมาจากห้อง
“ช่วงที่อุ้มลากออมานั้นเขาตัวแข็งทื่อ ตาค้าง ลุกเดินไม่ได้เลย หลังจากนั้นได้นำเอาน้ำมนต์มาประพรมและพยายามให้หลานลุกขึ้นยืน ในที่สุดเขาก็ยืนได้และอาการตกใจได้หายเป็นปกติ ส่วนอาการอื่นๆ นั้นไม่มี มีแต่รอยบาดแผล รอยไหม้ ส่วนยายยังตกใจไม่หาย ได้ไปบวชชีเพื่อสร้างกุศลให้หลาน 3 วัน 3 คืนก่อนที่จะลาสิกขาออกมา”
นายสกล จันทรักษ์ นายอำเภอฉวาง แสดงความเห็นว่าเรื่องฟ้าผ่าลงกลางบ้านลงบนคนนั้นร้อยทั้งร้อยต้องเสียชีวิต น้อยครั้งมากที่พบคนรอดจากสายฟ้าฟาด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ด.ช.อนุรักษ์ เป็นเรื่องปาฏิหาริย์มาก
“ผมเชื่อว่าเป็นเพราะบารมีของพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ พระเถราจารย์รูปสำคัญของภาคใต้ ที่ละสังขารไปเมื่อปี 2513 ที่ตัว ด.ช.อนุรักษ์ มีเหรียญของพ่อท่านคล้ายห้อยคออยู่ตลอดเวลา และบารมีของพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับพ่อท่านคล้ายที่ติดอยู่บนผนังในห้อง เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เด็กชายคนนี้รอดชีวิต” นายอำเภอฉวางกล่าว
วันที่ 17 พ.ค.55 นายสกล จันทรักษ์ นายอำเภอฉวาง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้เกิดเหตุการณ์ฟ้าผ่า ด.ช.อนุรักษ์ รักษาพราหมณ์ วัย 11 ขวบ หรือชื่อเล่นว่า “แป๊ะเท่ง” แต่เด็กชายไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ และรอดตายอย่างน่าอัศจรรย์ โดยกิ่งกาชาดอำเภอฉวางจะเข้าไปเยี่ยมบ้าน และมอบเงินปลอบขวัญด้วย หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวจึงติดตามไปกับคณะกิ่งกาชาดเพื่อตรวจสอบถึงเรื่องเหลือเชื่อ เหนือธรรมชาติดังกล่าวทันที
พบว่า บ้านที่เกิดเหตุเลขที่ 178 ม.12 ต.ละอาย อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช เป็นบ้านของนายสมโชค สิทธิสมบูรณ์ มีลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียวปลูกสร้างอยู่ในสวนผลไม้ร่มรื่น มีเครือญาติหลายคนมารอต้อนรับคณะของนายอำเภอฉวาง หลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงรายละเอียด นายสมโชค สิทธิสมบูรณ์ เจ้าของบ้าน เล่าว่าเหตุการณ์ฟ้าผ่าได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ในเวลาราว 23.00 น.เศษ และได้พาไปดูเกิดเหตุ
โดยเริ่มจากข้างบ้าน พบมีรอยกำแพงชั้นนอกทะลุคล้ายถูกแรงระเบิดอัด มูลดินกระเด็นไปติดกับหลังคาเป็นวงกว้าง รอยทางเดินของสายฟ้าได้ไปหยุดลงที่ต้นทุเรียนพันธุ์พื้นเมือง ห่างจากบ้านไปราวเกือบ 10 เมตร และสังเกตได้ชัดว่าต้นทุเรียนเริ่มยืนต้นตายจากยอดลงมา ส่วนตัวบ้านได้มีการ เริ่มซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว
ในห้องนอนที่เกิดเหตุพบว่ามีการติดรูปของพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับพ่อท่านคล้ายเมื่อราว 50 ปีก่อน และภาพอื่นๆ ของพ่อท่านคล้ายซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของพุทธศาสนิกชนในภาคใต้
นอกจากนี้ ยังพบว่าตรงหลังคามีการเปลี่ยนกระเบื้องหลังคา ซ่อมกำแพงแล้ว แต่ยังคงมีที่ฟูกนอนซึ่งมีร่องรอยกระจุยกระจาย ไฟไหม้มุ้งกันยุงและที่นอนบางส่วน โดยฟูกที่นอนที่เสียหายยับเยินดังกล่าวนั้น ด.ช.อนุรักษ์ นอนอยู่ในขณะเกิดเหตุ
หลังจากนั้น นายสกล จันทรักษ์ นายอำเภอฉวาง ในฐานะนายกกิ่งกาชาดอำเภอฉวาง ได้มอบเงินทำขวัญให้แก่ ด.ช.อนุรักษ์ จำนวน 3,000 บาท เพื่อเป็นการบำรุงปลอบขวัญกำลังใจของ ด.ช.ที่รอดชีวิตมาได้อย่างเหลือเชื่อ
นายสกล จันทรักษ์ นายอำเภอฉวาง ระบุว่า ตนเชื่อมั่นว่าสาเหตุที่ทำให้ ด.ช.อนุรักษ์ รอดมาได้เพราะบารมีรูปของพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ ห้อยอยู่ที่คอ และในห้องยังมีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับพ่อท่าน คล้ายอยู่ด้วย
ขณะเดียวกัน ด.ช.อนุรักษ์ รักษาพราหมณ์ เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังด้วยน้ำเสียงที่ยังมีอาการตื่นเต้นว่า ช่วงที่เกิดเหตุนอนอยู่ในห้องกับลุง คือ นายยงฤทธิ์ สิทธิสมบูรณ์ อายุ 39 ปี ช่วงที่ฟ้าผ่าลุงได้ลุกจากที่นอนไปเข้าห้องน้ำพอดี
“ผมได้ยินเสียงดังสนั่นลงมาจากหลังคา จากนั้นมีฝุ่นควันคลุ้งไปทั้งห้อง ผมตกใจเนื่องจากรู้ว่าฟ้าผ่าจึงตะโกนเรียกแม่เฒ่า บอกว่าให้มาช่วยด้วย ขณะนั้นผมตัวชาขยับตัวไม่ได้ ร้อนเท้า ร้อนขาไปหมด จนแม่เฒ่ามาช่วยอุ้มออกไปจากห้อง” เด็กชายเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
ด้าน นางผิน สิทธิ์สมบูรณ์ อายุ 65 ปี ยาย หรือภาษาถิ่นเรียกว่า “แม่เฒ่า” เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ช่วงที่เกิดเหตุ ตนกำลังนอนหลับแต่ตกใจตื่นด้วยเสียงฟ้าผ่าเข้ามาในบ้าน เห็นฝุ่นควันคลุ้งอยู่ในห้องของหลาน นึกในใจแล้วว่าหลานต้องตายแน่แล้ว จึงวิ่งเข้าไปดู พบไฟกำลังลุกไหม้ที่นอนที่หลานนอนอยู่ มุ้งมีไฟลุก ประกอบกับหลานเรียก จึงเข้าไปช่วยอุ้มลากออกมาจากห้อง
“ช่วงที่อุ้มลากออมานั้นเขาตัวแข็งทื่อ ตาค้าง ลุกเดินไม่ได้เลย หลังจากนั้นได้นำเอาน้ำมนต์มาประพรมและพยายามให้หลานลุกขึ้นยืน ในที่สุดเขาก็ยืนได้และอาการตกใจได้หายเป็นปกติ ส่วนอาการอื่นๆ นั้นไม่มี มีแต่รอยบาดแผล รอยไหม้ ส่วนยายยังตกใจไม่หาย ได้ไปบวชชีเพื่อสร้างกุศลให้หลาน 3 วัน 3 คืนก่อนที่จะลาสิกขาออกมา”
นายสกล จันทรักษ์ นายอำเภอฉวาง แสดงความเห็นว่าเรื่องฟ้าผ่าลงกลางบ้านลงบนคนนั้นร้อยทั้งร้อยต้องเสียชีวิต น้อยครั้งมากที่พบคนรอดจากสายฟ้าฟาด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ด.ช.อนุรักษ์ เป็นเรื่องปาฏิหาริย์มาก
“ผมเชื่อว่าเป็นเพราะบารมีของพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ พระเถราจารย์รูปสำคัญของภาคใต้ ที่ละสังขารไปเมื่อปี 2513 ที่ตัว ด.ช.อนุรักษ์ มีเหรียญของพ่อท่านคล้ายห้อยคออยู่ตลอดเวลา และบารมีของพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับพ่อท่านคล้ายที่ติดอยู่บนผนังในห้อง เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เด็กชายคนนี้รอดชีวิต” นายอำเภอฉวางกล่าว
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น