ป.ป.ส.นครศรีธรรมราช ดมกลิ่นเครือข่ายค้ายาผ่านเรือนจำ ล่อซื้อ ก่อนรวบตัวอย่างสะบักสะบอม พบเพิ่งได้รับอภัยโทษเมื่อ ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำตัวเป็นเสี่ยรับเหมาก่อสร้างบังหน้า
เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 21 มี.ค.55 พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ ผกก.กลุ่มงานสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 8 เข้าทำการล่อซื้อยาเสพติก จาก นายสุมล พรมเพชร อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 ม.2 ต.ละอาย อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งผู้เคยต้องโทษในคดียาเสพติดถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ จ.เชียงราย หลังจากได้รับอภัยโทษเมื่อเดือน ธ.ค.54 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากสืบสวนขยายผลมาอย่างต่อเนื่องแล้ว พบว่า นายสุมล ยังเป็นผู้ค้ายาบ้ารายใหญ่และเป็นแก๊งค้ายาเสพติดเครือข่ายเรือนจำด้วย หลังจากพ้นโทษ และกลับมายังภูมิลำเนาแล้วทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างบังหน้า
หลังจากนั้น เจ้าหน้าตำรวจ ได้วางแผนล่อซื้อยาบ้าจาก นายสุมล ซึ่งได้ส่งสายสืบเข้าเชื่อมโยงมาเป็นเวลานานนับสัปดาห์ก่อนที่นายสุมลจะยอม ขายยาบ้า โดยได้ตกลงซื้อขายจำนวน 800 เม็ด ในราคา 1 แสนบาท จากนั้นนัดหมายส่งมอบยาบ้าจำนวนดังกล่าว หลังธนาคารกสิกรไทย สาขาจันดี ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช
เมื่อได้เวลานัดหมายนายสุมลได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นทะเบียน นำของกลางยาบ้ามามอบให้กับเจ้าหน้าที่หลังจากที่นายสุมลส่งมอบแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวจับกุมทันที แต่นายสุมลพยายามขัดขืน และฮึดสู้พยายามชกต่อยเจ้าหน้าที่อย่างอุตลุด ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะคุมตัวสวมกุญแจมือไว้ได้ในสภาพที่สะบักสะบอม พร้อมของกลางยาบ้า 800 เม็ด พร้อมเงินสดในการล่อซื้อจำนวน 1 แสนบาท
เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 21 มี.ค.55 พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ ผกก.กลุ่มงานสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 8 เข้าทำการล่อซื้อยาเสพติก จาก นายสุมล พรมเพชร อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 ม.2 ต.ละอาย อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งผู้เคยต้องโทษในคดียาเสพติดถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ จ.เชียงราย หลังจากได้รับอภัยโทษเมื่อเดือน ธ.ค.54 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากสืบสวนขยายผลมาอย่างต่อเนื่องแล้ว พบว่า นายสุมล ยังเป็นผู้ค้ายาบ้ารายใหญ่และเป็นแก๊งค้ายาเสพติดเครือข่ายเรือนจำด้วย หลังจากพ้นโทษ และกลับมายังภูมิลำเนาแล้วทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างบังหน้า
หลังจากนั้น เจ้าหน้าตำรวจ ได้วางแผนล่อซื้อยาบ้าจาก นายสุมล ซึ่งได้ส่งสายสืบเข้าเชื่อมโยงมาเป็นเวลานานนับสัปดาห์ก่อนที่นายสุมลจะยอม ขายยาบ้า โดยได้ตกลงซื้อขายจำนวน 800 เม็ด ในราคา 1 แสนบาท จากนั้นนัดหมายส่งมอบยาบ้าจำนวนดังกล่าว หลังธนาคารกสิกรไทย สาขาจันดี ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช
เมื่อได้เวลานัดหมายนายสุมลได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นทะเบียน นำของกลางยาบ้ามามอบให้กับเจ้าหน้าที่หลังจากที่นายสุมลส่งมอบแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวจับกุมทันที แต่นายสุมลพยายามขัดขืน และฮึดสู้พยายามชกต่อยเจ้าหน้าที่อย่างอุตลุด ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะคุมตัวสวมกุญแจมือไว้ได้ในสภาพที่สะบักสะบอม พร้อมของกลางยาบ้า 800 เม็ด พร้อมเงินสดในการล่อซื้อจำนวน 1 แสนบาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวขยายผลทันที พบจากการสอบสวนทราบว่า นายสุมล เคยต้องคดียาเสพติดติดคุกอยู่ที่เรือนจำกลางเชียงราย และได้รับเพิ่งได้รับอภัยโทษเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา หลังจากนั้น ก็ออกมาทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเพื่อเป็นการบังหน้าในการค้ายาเสพติด ทำทีว่าเมื่อมีการประมูลงานก่อสร้างที่ไหนก็จะไปร่วมประมูลด้วย
ส่วนยาบ้านั้นสั่งมาจากผู้ต้องขังคนหนึ่งชื่อนายประเสริฐ ไม่ทราบนามสกุล ยังถูกจองจำอยู่ที่เรือนจำกลางเชียงรายครั้งละ 2-3 หมื่นเม็ด มากระจายขายให้กับเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่นครศรีธรรมราช
อย่างไรก็ตาม นายสุมล ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาเนื่องจากจนมุมต่อพฤติการณ์ และหลักฐาน และยอมที่ช่วยเจ้าหน้าที่ขยายผลด้วยการติดต่อเครือข่ายที่ร่วมค้ายาบ้า พบว่า มี นายสิทธิชัย โลกภิบาล อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/22 ม.3 ต.ชะอวด อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เป็นลูกชายของเจ้าของฟาร์มหมูรายใหญ่ในพื้นที่ อ.ชะอวด โดยเมื่อมีการส่งมอบเจ้าหน้าที่จึงจับกุมนายสิทธิชัยพร้อมของกลางยาบ้าอีก 560 เม็ด ซึ่งผู้ต้องหาแก๊งค้ายาบ้า 2 รายนี้ได้ให้การรับสารภาพว่า เป็นเครือข่ายเดียวกัน สั่งซื้อยาบ้าจากผู้ต้องขังเรือนจำกลางเชียงรายด้วยกัน
หลังถูกจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ให้ นายสุมล ทำทีสั่งซื้อยาบ้าจาก นายประเสริฐ ผู้ต้องขังในเรือนจำกลางเชียงรายจำนวน 3 หมื่นเม็ด และจะโอนเงินมาให้ภายหลัง ซึ่งเป็นการซ้อนแผนเพื่อจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายสุมล พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฉวาง และส่งตัวนายสิทธิชัย ส่ง สภ.ชะอวด เพื่อสอบสวนขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนยาบ้านั้นสั่งมาจากผู้ต้องขังคนหนึ่งชื่อนายประเสริฐ ไม่ทราบนามสกุล ยังถูกจองจำอยู่ที่เรือนจำกลางเชียงรายครั้งละ 2-3 หมื่นเม็ด มากระจายขายให้กับเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่นครศรีธรรมราช
อย่างไรก็ตาม นายสุมล ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาเนื่องจากจนมุมต่อพฤติการณ์ และหลักฐาน และยอมที่ช่วยเจ้าหน้าที่ขยายผลด้วยการติดต่อเครือข่ายที่ร่วมค้ายาบ้า พบว่า มี นายสิทธิชัย โลกภิบาล อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/22 ม.3 ต.ชะอวด อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เป็นลูกชายของเจ้าของฟาร์มหมูรายใหญ่ในพื้นที่ อ.ชะอวด โดยเมื่อมีการส่งมอบเจ้าหน้าที่จึงจับกุมนายสิทธิชัยพร้อมของกลางยาบ้าอีก 560 เม็ด ซึ่งผู้ต้องหาแก๊งค้ายาบ้า 2 รายนี้ได้ให้การรับสารภาพว่า เป็นเครือข่ายเดียวกัน สั่งซื้อยาบ้าจากผู้ต้องขังเรือนจำกลางเชียงรายด้วยกัน
หลังถูกจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ให้ นายสุมล ทำทีสั่งซื้อยาบ้าจาก นายประเสริฐ ผู้ต้องขังในเรือนจำกลางเชียงรายจำนวน 3 หมื่นเม็ด และจะโอนเงินมาให้ภายหลัง ซึ่งเป็นการซ้อนแผนเพื่อจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายสุมล พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฉวาง และส่งตัวนายสิทธิชัย ส่ง สภ.ชะอวด เพื่อสอบสวนขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น