เกิดเหตุเพลิงไหม้ชุมชนคูขวาง 3 ซึ่งเป็นชุมชนแออัดในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่เร่งเข้าทำการควบคุมเพลิง พบบ้านต้นเพลิงเป็นบ้านประธานชุมชน
เมื่อเวลา 12.00 น.ของวันที่ 6 มี.ค.55 พ.ต.ท.ศิรพงศ์ โพธิ์พัฒน์ รองผกก.สส.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ในบริเวณชุมชนคูขวาง 3 ซึ่งเป็นชุมชนแออัดในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ต.ท่าวัง อ.เมือง หลังจากนั้น จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เข้าทำการสกัดเพลิงทันที
ในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นชุมชนแออัด มีบ้านเรือนปลูกใกล้ชิดกันอย่างหนาแน่น ไฟกำลังโหมลุกไหม้บ้านเลขที่ 108/42 ในชุมชนดังกล่าวอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำดับเพลิงและสกัดไม่ให้ลุกลามไปยังบ้านหลังอื่นๆ ที่อยู่ติดกันด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเป็นซอยแคบ เบื้องต้นนั้น พบว่า เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว คือ นายสมชาย พงศ์รักธรรม ประธานชุมชนในที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยครอบครัว ขณะเกิดเหตุไม่มีใครอาศัยอยู่ในบ้าน หลังจากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เพลิงอยู่ในวงจำกัดไม่ลุกลามและสงบลงไปในที่สุด
เจ้าหน้าที่สอบสวน นายสมชาย เบื้องต้นได้ความว่า ในบ้านหลังดังกล่าวนั้นได้ถอดปลั๊ก และปิดสวิตช์ไฟฟ้าไว้จนหมดแล้ว ก่อนที่จะออกจากบ้าน เพลิงได้ลุกไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุและในบ้านเป็นที่เก็บทรัพย์สินหลายอย่างของ ชุมชน ส่วนทรัพย์สินส่วนตัวนั้นมีเงินสด 2 หมื่นบาทและสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ได้รับความเสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่มอบให้ตำรวจวิทยาการเข้าทำการเก็บหลักฐานตรวจพิสูจน์สาเหตุ เพลิงไหม้ต่อไปแล้ว
เมื่อเวลา 12.00 น.ของวันที่ 6 มี.ค.55 พ.ต.ท.ศิรพงศ์ โพธิ์พัฒน์ รองผกก.สส.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ในบริเวณชุมชนคูขวาง 3 ซึ่งเป็นชุมชนแออัดในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ต.ท่าวัง อ.เมือง หลังจากนั้น จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เข้าทำการสกัดเพลิงทันที
ในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นชุมชนแออัด มีบ้านเรือนปลูกใกล้ชิดกันอย่างหนาแน่น ไฟกำลังโหมลุกไหม้บ้านเลขที่ 108/42 ในชุมชนดังกล่าวอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำดับเพลิงและสกัดไม่ให้ลุกลามไปยังบ้านหลังอื่นๆ ที่อยู่ติดกันด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเป็นซอยแคบ เบื้องต้นนั้น พบว่า เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว คือ นายสมชาย พงศ์รักธรรม ประธานชุมชนในที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยครอบครัว ขณะเกิดเหตุไม่มีใครอาศัยอยู่ในบ้าน หลังจากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เพลิงอยู่ในวงจำกัดไม่ลุกลามและสงบลงไปในที่สุด
เจ้าหน้าที่สอบสวน นายสมชาย เบื้องต้นได้ความว่า ในบ้านหลังดังกล่าวนั้นได้ถอดปลั๊ก และปิดสวิตช์ไฟฟ้าไว้จนหมดแล้ว ก่อนที่จะออกจากบ้าน เพลิงได้ลุกไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุและในบ้านเป็นที่เก็บทรัพย์สินหลายอย่างของ ชุมชน ส่วนทรัพย์สินส่วนตัวนั้นมีเงินสด 2 หมื่นบาทและสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ได้รับความเสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่มอบให้ตำรวจวิทยาการเข้าทำการเก็บหลักฐานตรวจพิสูจน์สาเหตุ เพลิงไหม้ต่อไปแล้ว
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น