ด้านอาจารย์ผู้เคยสอน “เต้น” ลั่น “ยิ่งติดนานยิ่งประจานโรงเรียน” เสื้อแดงท้าทายบุกติดป้ายเชียร์เพิ่มฝั่งตรงข้ามโรงเรียนอีกป้าย
กรณีศิษย์เก่าโรงเรียนเบญจมราชูทิศนครศรีธรรมราช จำนวนหนึ่งได้เคลื่อนไหวให้มีการปลดแผ่นป้ายแสดงความยินกับนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ขนาดใหญ่มีความยาวประมาณ 50 เมตร ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณรั้วหน้าโรงเรียนเบญจมราชูทิศ ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากไม่พอใจโดยเฉพาะศิษย์เก่าจำนวนมากเคยเคลื่อนไหวอัปเปหิ นายณัฐวุฒิ ออกจากสายสัมพันธ์พี่น้องขาว-แดง นครศรีธรรมราช เมื่อช่วงกลางปี 2553 ที่ผ่านมาในขณะที่นายณัฐวุฒิ เคลื่อนไหวเป็นแกนนำคนเสื้อแดง และแสดงความก้าวร้าวอย่างรุนแรงรวมถึงการปลูกปั่นประชาชนจนเกิดเหตุการณ์ จลาจลที่ได้สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงกับประเทศในหลายด้าน
ความคืบหน้าวันที่ 24 ม.ค.55 ตั้งแต่ช่วงเช้านายสุเมธ สอดจิตต์ ในฐานะศิษย์เก่าเบญจมราชูทิศ รุ่นที่ 25/28 ปัจจุบันมีอาชีพรับราชการครู เป็นผู้สอนวิชาสังคมศาสนา และวัฒนธรรมในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งของนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยเพื่อนศิษย์เก่าอีกหลายคน รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าบริเวณหน้าโรงเรียนเบญจมราชบูทิศอีกจำนวนหนึ่งได้รวมตัว กันที่หน้าประตูโรงเรียนแต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในโรงเรียน โดยมีนายสง่า นาวารัตน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาโรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยอาจารย์ฝ่ายพัฒนา(ฝ่ายปกครองเดิม) รปภ.ได้มารอรับศิษย์เก่าอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียน
โดย นายสง่า นาวารัตน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาได้ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่า การเคลื่อนไหวเมื่อปี 2553 ที่ผ่านมาโรงเรียนไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในครั้งแรก ซึ่งกลุ่มที่เคลื่อนไหวนั้นได้ใช้พื้นที่หน้าโรงเรียนเป็นสถานที่ในการติด ป้าย และการรณรงค์ลงลายมือชื่อในแผ่นป้ายผ้า โรงเรียนไม่ได้มีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น การเคลื่อนไหวของ นายสุเมธและกลุ่มนั้นก็ไม่ได้มีปัญหาใดๆ เป็นเรื่องของการเคลื่อนไหวทางการเมือง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรงเรียน
ต่อข้อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่หากจะมีการเอาป้ายลงเพื่อลดความขัดแย้ง โดยเฉพาะในกลุ่มศิษย์เก่าจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นป้ายของโรงเรียน นายสง่า ระบุว่า สามารถเอาลงได้แต่ทั้งนี้ต้องนำเรื่องนี้ไปหารือกับ 5 ส่วนด้วยกันคือผู้บริหารโรงเรียน คณะกรรรมการสถานศึกษา สมาคมศิษย์เก่า สมาคมครูผู้ปกครอง และชมรมครูเก่า เครือข่ายผู้ปกครองเบญจมราชูทิศ จะว่ากันอย่างไรปลดหรือไม่ปลดขอให้เป็นการดำเนินการของภายในโรงเรียน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายสง่า กำลังชี้แจงกับผู้สื่อข่าวและพูดคุยกับนายสุเมธ สอดจิตต์ ได้มีอาจารย์ผู้สอนในโรงเรียนเบญจมราชูทิศ คือ อ.จารีย์ ประกอบบุญ อาจารย์สายวิชาคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นอาจารย์ที่เคยสอนนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้มาหยุดรถก่อนเข้าประตูโรงเรียนและบอกว่า “ป้ายนี้ยิ่งขึ้นอยู่นาน ยิ่งประจานโรงเรียนและยังเป็นตัวอย่างให้เด็กใหม่ๆ ดูว่าทำชั่วแล้วได้ดี ต้องปลดออกโดยเร็ว” ก่อนที่จะเข้าไปในโรงเรียน ขณะเดียวกันได้มีศิษย์เก่าอีกรายที่รู้จักในนาม “ลุงเขียว” ได้มาขอร้องให้ นายสง่า เร่งในการปลดป้ายเนื่องจากจะมีศิษย์เก่าหลายรุ่นเข้ามาเคลื่อนไหวในเรื่อง นี้ปลดเสียก่อนจะลุกลามไปมากกว่านี้ และหากโรงเรียนไม่ปลดตนเองพร้อมด้วยศิษย์เก่าอีกหลายคนจะเป็นคนปลดเอง ยินดีที่จะถูกดำเนินคดีข้อหาทำให้เสียทรัพย์สินของโรงเรียน
ส่วนนายสุเมธ สอดจิตต์ ได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกมีหัวเรื่องคือ “ขอความกรุณาเอาป้ายแสดงความยินดี ต่อนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ออกไปจากหน้าโรงเรียน” โดยส่งถึง ผู้บริหารโรงเรียนเบญจมราชูทิศ ซึ่งมีสาระสำคัญว่า “ในฐานะที่เป็นลูกเบญจมเต็มตัว ลูกชาวนครศรีธรรมราช 100 เปอร์เซ็น มีความรู้สึกเจ็บปวด ท้อแท้ สิ้นหวังและเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง หากครูบาอาจารย์ ผู้บริหาร และสถานศึกษาไม่สามารถชี้ช่องทางสว่างไสวให้กับสังคม
“ควรจะถึงเวลาที่สถานศึกษาชำระล้างสิ่งสกปรกโสมมของเกมส์การ เมืองออกไปจากรั้วโรงเรียน เราควรสร้างสรรค์สถานศึกษาอันเป็นที่รักของเราให้เป็นแปลงเพราะปลูกเมล็ด พันธ์เยาวชนที่สวยงามให้สมวัย และส่งเสริมบุคคลที่เป็นเยี่ยงอย่างให้ถูกทิศทาง”
เนื้อความยังระบุถึงนายณัฐวุฒิ ต่อว่า “หากสื่อถึงน้องชายคนหนึ่งที่เคยร่วมสถาบัน ผู้ชื่อณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โปรดรับรู้เถิดว่า “พี่ชื่นชมเธอมาก” ในสมัยที่โต้คารมมัธยมศึกษา เหตุการณ์มันผ่านเนิ่นนานแล้วนะน้อง นานจนน้องก้าวไปไกล ไกล จนถึงขั้นที่พี่จำเป็นต้องตัดสายใยจากเลือดขาวแดง อัปเปหิ สิ้นความเป็นพี่น้อง หลังจากนี้ขอให้น้องใช้ชีวิตอย่างปกติสุขบนกองเงิน กองทอง แล้วขอให้เดินทางใครทางมัน ไม่เบียดเบียนกัน” ในจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ระบุ
ในช่วงเที่ยงของวันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงนำอีกป้ายมาติดตั้งในฝั่งตรงข้ามของโรงเรียน เป็นภาพนายณัฐวุฒิ บนพื้นสีแดง มีข้อความว่า “ขอแสดงความยินดีกับ ฯพณฯณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โดยส่วนล่างของป้ายนั้นได้ลงชื่อว่า “มุสลิมนครศรีธรรมราช”
นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่า ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้บริหารโรงเรียนเบญจมราชูทิศนครศรีธรรมราช ได้สั่งให้มีการปลดป้ายปัญหานี้ออกแล้วแต่ปรากฏว่ามี “ผู้ใหญ่”ในวงการศึกษานครศรีธรรมราช รายหนึ่งโทรศัพท์สั่งห้ามปลดออกและบอกว่าหากเกิดอะไรขึ้นขอรับผิดชอบเอง ในทำนองเดียวกับ “เผาเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง”
กรณีศิษย์เก่าโรงเรียนเบญจมราชูทิศนครศรีธรรมราช จำนวนหนึ่งได้เคลื่อนไหวให้มีการปลดแผ่นป้ายแสดงความยินกับนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ขนาดใหญ่มีความยาวประมาณ 50 เมตร ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณรั้วหน้าโรงเรียนเบญจมราชูทิศ ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากไม่พอใจโดยเฉพาะศิษย์เก่าจำนวนมากเคยเคลื่อนไหวอัปเปหิ นายณัฐวุฒิ ออกจากสายสัมพันธ์พี่น้องขาว-แดง นครศรีธรรมราช เมื่อช่วงกลางปี 2553 ที่ผ่านมาในขณะที่นายณัฐวุฒิ เคลื่อนไหวเป็นแกนนำคนเสื้อแดง และแสดงความก้าวร้าวอย่างรุนแรงรวมถึงการปลูกปั่นประชาชนจนเกิดเหตุการณ์ จลาจลที่ได้สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงกับประเทศในหลายด้าน
ความคืบหน้าวันที่ 24 ม.ค.55 ตั้งแต่ช่วงเช้านายสุเมธ สอดจิตต์ ในฐานะศิษย์เก่าเบญจมราชูทิศ รุ่นที่ 25/28 ปัจจุบันมีอาชีพรับราชการครู เป็นผู้สอนวิชาสังคมศาสนา และวัฒนธรรมในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งของนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยเพื่อนศิษย์เก่าอีกหลายคน รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าบริเวณหน้าโรงเรียนเบญจมราชบูทิศอีกจำนวนหนึ่งได้รวมตัว กันที่หน้าประตูโรงเรียนแต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในโรงเรียน โดยมีนายสง่า นาวารัตน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาโรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยอาจารย์ฝ่ายพัฒนา(ฝ่ายปกครองเดิม) รปภ.ได้มารอรับศิษย์เก่าอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียน
โดย นายสง่า นาวารัตน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาได้ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่า การเคลื่อนไหวเมื่อปี 2553 ที่ผ่านมาโรงเรียนไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในครั้งแรก ซึ่งกลุ่มที่เคลื่อนไหวนั้นได้ใช้พื้นที่หน้าโรงเรียนเป็นสถานที่ในการติด ป้าย และการรณรงค์ลงลายมือชื่อในแผ่นป้ายผ้า โรงเรียนไม่ได้มีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น การเคลื่อนไหวของ นายสุเมธและกลุ่มนั้นก็ไม่ได้มีปัญหาใดๆ เป็นเรื่องของการเคลื่อนไหวทางการเมือง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรงเรียน
ต่อข้อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่หากจะมีการเอาป้ายลงเพื่อลดความขัดแย้ง โดยเฉพาะในกลุ่มศิษย์เก่าจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นป้ายของโรงเรียน นายสง่า ระบุว่า สามารถเอาลงได้แต่ทั้งนี้ต้องนำเรื่องนี้ไปหารือกับ 5 ส่วนด้วยกันคือผู้บริหารโรงเรียน คณะกรรรมการสถานศึกษา สมาคมศิษย์เก่า สมาคมครูผู้ปกครอง และชมรมครูเก่า เครือข่ายผู้ปกครองเบญจมราชูทิศ จะว่ากันอย่างไรปลดหรือไม่ปลดขอให้เป็นการดำเนินการของภายในโรงเรียน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายสง่า กำลังชี้แจงกับผู้สื่อข่าวและพูดคุยกับนายสุเมธ สอดจิตต์ ได้มีอาจารย์ผู้สอนในโรงเรียนเบญจมราชูทิศ คือ อ.จารีย์ ประกอบบุญ อาจารย์สายวิชาคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นอาจารย์ที่เคยสอนนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้มาหยุดรถก่อนเข้าประตูโรงเรียนและบอกว่า “ป้ายนี้ยิ่งขึ้นอยู่นาน ยิ่งประจานโรงเรียนและยังเป็นตัวอย่างให้เด็กใหม่ๆ ดูว่าทำชั่วแล้วได้ดี ต้องปลดออกโดยเร็ว” ก่อนที่จะเข้าไปในโรงเรียน ขณะเดียวกันได้มีศิษย์เก่าอีกรายที่รู้จักในนาม “ลุงเขียว” ได้มาขอร้องให้ นายสง่า เร่งในการปลดป้ายเนื่องจากจะมีศิษย์เก่าหลายรุ่นเข้ามาเคลื่อนไหวในเรื่อง นี้ปลดเสียก่อนจะลุกลามไปมากกว่านี้ และหากโรงเรียนไม่ปลดตนเองพร้อมด้วยศิษย์เก่าอีกหลายคนจะเป็นคนปลดเอง ยินดีที่จะถูกดำเนินคดีข้อหาทำให้เสียทรัพย์สินของโรงเรียน
ส่วนนายสุเมธ สอดจิตต์ ได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกมีหัวเรื่องคือ “ขอความกรุณาเอาป้ายแสดงความยินดี ต่อนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ออกไปจากหน้าโรงเรียน” โดยส่งถึง ผู้บริหารโรงเรียนเบญจมราชูทิศ ซึ่งมีสาระสำคัญว่า “ในฐานะที่เป็นลูกเบญจมเต็มตัว ลูกชาวนครศรีธรรมราช 100 เปอร์เซ็น มีความรู้สึกเจ็บปวด ท้อแท้ สิ้นหวังและเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง หากครูบาอาจารย์ ผู้บริหาร และสถานศึกษาไม่สามารถชี้ช่องทางสว่างไสวให้กับสังคม
“ควรจะถึงเวลาที่สถานศึกษาชำระล้างสิ่งสกปรกโสมมของเกมส์การ เมืองออกไปจากรั้วโรงเรียน เราควรสร้างสรรค์สถานศึกษาอันเป็นที่รักของเราให้เป็นแปลงเพราะปลูกเมล็ด พันธ์เยาวชนที่สวยงามให้สมวัย และส่งเสริมบุคคลที่เป็นเยี่ยงอย่างให้ถูกทิศทาง”
เนื้อความยังระบุถึงนายณัฐวุฒิ ต่อว่า “หากสื่อถึงน้องชายคนหนึ่งที่เคยร่วมสถาบัน ผู้ชื่อณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โปรดรับรู้เถิดว่า “พี่ชื่นชมเธอมาก” ในสมัยที่โต้คารมมัธยมศึกษา เหตุการณ์มันผ่านเนิ่นนานแล้วนะน้อง นานจนน้องก้าวไปไกล ไกล จนถึงขั้นที่พี่จำเป็นต้องตัดสายใยจากเลือดขาวแดง อัปเปหิ สิ้นความเป็นพี่น้อง หลังจากนี้ขอให้น้องใช้ชีวิตอย่างปกติสุขบนกองเงิน กองทอง แล้วขอให้เดินทางใครทางมัน ไม่เบียดเบียนกัน” ในจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ระบุ
ในช่วงเที่ยงของวันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงนำอีกป้ายมาติดตั้งในฝั่งตรงข้ามของโรงเรียน เป็นภาพนายณัฐวุฒิ บนพื้นสีแดง มีข้อความว่า “ขอแสดงความยินดีกับ ฯพณฯณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โดยส่วนล่างของป้ายนั้นได้ลงชื่อว่า “มุสลิมนครศรีธรรมราช”
นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่า ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้บริหารโรงเรียนเบญจมราชูทิศนครศรีธรรมราช ได้สั่งให้มีการปลดป้ายปัญหานี้ออกแล้วแต่ปรากฏว่ามี “ผู้ใหญ่”ในวงการศึกษานครศรีธรรมราช รายหนึ่งโทรศัพท์สั่งห้ามปลดออกและบอกว่าหากเกิดอะไรขึ้นขอรับผิดชอบเอง ในทำนองเดียวกับ “เผาเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง”
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น