เศรษฐีสวน ยางวัย 32 ปี ฆ่าตัวตายพิสดาร นั่งในรถราดน้ำมันจุดไฟ-ระเบิดหัวตัวเอง ก่อนไฟลุกท่วม หลังจากให้ภรรยาออกไปกรีดยาง และหลอกว่าจะตามไป เผย นิสัยดีแต่เป็นคนเก็บกด และก่อนเกิดเหตุไม่ได้มีเรื่องทะเลาะใดๆ
เหตุการณ์สยองขวัญฆ่าตัวตายสุดพิสดารรายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 20 ม.ค.55 พ.ต.ท.อภิชาติ เดชฤกษปาน พนักงานสอบสวน สภ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งมีเหตุฆ่าตัวตายอยู่ภายในรถยนต์ และยังมีไฟลุกท่วมตัวรถ หลังจากนั้น จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูดิษ นรสิงห์ รองผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.ธีระภูมิ ธุระกิจ ผกก.พ.ต.ท.สงัด ตุ้งซี่ สว.สส. เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยมูลนิธิใต้เต็กตึ๊ง
ในที่เกิดเหตุบ้านชั้นเดียวหลังงามกลางสวนยางพาราเนื้อที่กว่า 50 ไร่ เป็นบ้านเลขที่ 117 หมู่ 8 ต.ดุสิต อ.ถ้ำพรรณรา จุดเกิดเหตุพบว่าเป็นโรงจอดรถหลังบ้านพบรถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ สีดำ ทะเบียน บย 6019 สุราษฎร์ธานี สภาพเพลิงไหม้เกือบทั้งคัน โดยเพื่อนบ้านสามารถเข้ามาดับไฟไว้ได้แล้วก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึงไม่นาน ภายในห้องโดยสารที่นั่งผู้ขับขี่ พบศพสภาพไหม้เกรียมทราบชื่อต่อมา คือ นายเอก อินมัง อายุ 32 ปี เจ้าของบ้านมีฐานะอยู่ในขั้นเศรษฐี มีสวนยางอยู่กว่า 50 ไร่ ที่สร้างรายได้ให้วันละนับหมื่นบาท เจ้าหน้าที่จึงประสานกับฝ่ายวิทยาการ และแพทย์เวรเข้าทำการชันสูตร พบว่า มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณขมับขวาทะลุซ้าย กระสุนแฉลบทะลุหลังคารถก่อนไปตกอยู่ที่พื้นโรงรถ ที่สะเอวด้านขวามีซองปืนคาดอยู่ 1 ซองสภาพไหม้เกรียม
ภายในห้องโดยสารถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมดในรถยังพบถังแกลลอนขนาด 5 ลิตร สีแดง ตกอยู่หลังเบาะนั่งด้านซ้ายมีรอยไหม้จนหลอมละลาย บนพื้นที่พักเท้าด้านผู้ขับขี่พบอาวุธปืน ชนิด 9 มม.ตกอยู่ที่วางเท้าคนขับ 1 กระบอก เจ้าหน้าที่วิทยาการตำรวจ จ.นครศรีธรรมราช จึง เก็บใว้เป็นหลักฐาน
นางจารี มณีอ่อน อายุ 36 ปี ภรรยาผู้ตาย ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ชวนกันไปกรีดยางตามปกติ และกลับมากรีดแปลงข้างบ้าน ส่วนสามีบอกให้ตนลงไปก่อน เดี๋ยวจะตามไปหลังจากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงรีบวิ่งมาดูพบไฟกำลังลุกไหม้ภายในรถที่จอดอยู่ในโรงเก็บ เห็นคนตายนั่งอยู่หลังพวงมาลัย และไฟกำลังลุกท่วมตัว จึงเรียกลูกสาวอายุ 11 ปี และ 14 ปี ที่นอนหลับอยู่ในบ้าน ให้ออกมาช่วยดับไฟ จากนั้นตนจึงตัดสินใจทุบกระจกรถยนต์ เพื่อนำน้ำมาสาดจนไฟมอดดับลงแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ส่วนนายเอกเสียชีวิตไปแล้ว
พ.ต.อ.ธีระภูมิ ธุระกิจ ผกก.สภ.ถ้ำพรรณรา เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำบิดาของผู้ตายแล้วได้รับการยืนยันว่านาย เอกเป็นคนที่เคร่งเครียดเก็บกด ซึ่งน่าจะมีความเครียดบางอย่างแต่ไม่ได้บอกใคร
“ก่อนเกิดเหตุนั้นพบว่ามีการเตรียมน้ำมัน เตรียมอาวุธปืนไว้ล่วงหน้า ขณะเกิดเหตุนั้นพบว่านายเอกได้ราดน้ำมันในรถก่อนแล้วจึงจุดไฟขึ้น แล้วใช้อาวุธปืนยิงตัวตายก่อนที่ไฟจะลุกโหมครอกจนไหม้เกรียม ซึ่งการเสียชีวิตนั่นเสียชีวิตจากอาวุธปืนก่อนแล้ว อย่างไรก็ตามได้สอบถามภรรยาผู้ตายเพิ่มเติมนั้น ยืนยันว่า นายเอก ไม่ได้มีเรื่องทะเลาะใดๆ กันทั้งยังเป็นคนอัธยาศัยดี เอาการเอางาน โดยครอบครัวของผู้ตายนั้นไม่ได้ติดใจในสาเหตุการตาย และเมื่อรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จึงมอบให้ญาติไปดำเนิน” ผกก.สภ.ถ้ำพรรณรา กล่าว
เหตุการณ์สยองขวัญฆ่าตัวตายสุดพิสดารรายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 20 ม.ค.55 พ.ต.ท.อภิชาติ เดชฤกษปาน พนักงานสอบสวน สภ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งมีเหตุฆ่าตัวตายอยู่ภายในรถยนต์ และยังมีไฟลุกท่วมตัวรถ หลังจากนั้น จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูดิษ นรสิงห์ รองผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.ธีระภูมิ ธุระกิจ ผกก.พ.ต.ท.สงัด ตุ้งซี่ สว.สส. เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยมูลนิธิใต้เต็กตึ๊ง
ในที่เกิดเหตุบ้านชั้นเดียวหลังงามกลางสวนยางพาราเนื้อที่กว่า 50 ไร่ เป็นบ้านเลขที่ 117 หมู่ 8 ต.ดุสิต อ.ถ้ำพรรณรา จุดเกิดเหตุพบว่าเป็นโรงจอดรถหลังบ้านพบรถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ สีดำ ทะเบียน บย 6019 สุราษฎร์ธานี สภาพเพลิงไหม้เกือบทั้งคัน โดยเพื่อนบ้านสามารถเข้ามาดับไฟไว้ได้แล้วก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึงไม่นาน ภายในห้องโดยสารที่นั่งผู้ขับขี่ พบศพสภาพไหม้เกรียมทราบชื่อต่อมา คือ นายเอก อินมัง อายุ 32 ปี เจ้าของบ้านมีฐานะอยู่ในขั้นเศรษฐี มีสวนยางอยู่กว่า 50 ไร่ ที่สร้างรายได้ให้วันละนับหมื่นบาท เจ้าหน้าที่จึงประสานกับฝ่ายวิทยาการ และแพทย์เวรเข้าทำการชันสูตร พบว่า มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณขมับขวาทะลุซ้าย กระสุนแฉลบทะลุหลังคารถก่อนไปตกอยู่ที่พื้นโรงรถ ที่สะเอวด้านขวามีซองปืนคาดอยู่ 1 ซองสภาพไหม้เกรียม
ภายในห้องโดยสารถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมดในรถยังพบถังแกลลอนขนาด 5 ลิตร สีแดง ตกอยู่หลังเบาะนั่งด้านซ้ายมีรอยไหม้จนหลอมละลาย บนพื้นที่พักเท้าด้านผู้ขับขี่พบอาวุธปืน ชนิด 9 มม.ตกอยู่ที่วางเท้าคนขับ 1 กระบอก เจ้าหน้าที่วิทยาการตำรวจ จ.นครศรีธรรมราช จึง เก็บใว้เป็นหลักฐาน
นางจารี มณีอ่อน อายุ 36 ปี ภรรยาผู้ตาย ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ชวนกันไปกรีดยางตามปกติ และกลับมากรีดแปลงข้างบ้าน ส่วนสามีบอกให้ตนลงไปก่อน เดี๋ยวจะตามไปหลังจากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงรีบวิ่งมาดูพบไฟกำลังลุกไหม้ภายในรถที่จอดอยู่ในโรงเก็บ เห็นคนตายนั่งอยู่หลังพวงมาลัย และไฟกำลังลุกท่วมตัว จึงเรียกลูกสาวอายุ 11 ปี และ 14 ปี ที่นอนหลับอยู่ในบ้าน ให้ออกมาช่วยดับไฟ จากนั้นตนจึงตัดสินใจทุบกระจกรถยนต์ เพื่อนำน้ำมาสาดจนไฟมอดดับลงแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ส่วนนายเอกเสียชีวิตไปแล้ว
พ.ต.อ.ธีระภูมิ ธุระกิจ ผกก.สภ.ถ้ำพรรณรา เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำบิดาของผู้ตายแล้วได้รับการยืนยันว่านาย เอกเป็นคนที่เคร่งเครียดเก็บกด ซึ่งน่าจะมีความเครียดบางอย่างแต่ไม่ได้บอกใคร
“ก่อนเกิดเหตุนั้นพบว่ามีการเตรียมน้ำมัน เตรียมอาวุธปืนไว้ล่วงหน้า ขณะเกิดเหตุนั้นพบว่านายเอกได้ราดน้ำมันในรถก่อนแล้วจึงจุดไฟขึ้น แล้วใช้อาวุธปืนยิงตัวตายก่อนที่ไฟจะลุกโหมครอกจนไหม้เกรียม ซึ่งการเสียชีวิตนั่นเสียชีวิตจากอาวุธปืนก่อนแล้ว อย่างไรก็ตามได้สอบถามภรรยาผู้ตายเพิ่มเติมนั้น ยืนยันว่า นายเอก ไม่ได้มีเรื่องทะเลาะใดๆ กันทั้งยังเป็นคนอัธยาศัยดี เอาการเอางาน โดยครอบครัวของผู้ตายนั้นไม่ได้ติดใจในสาเหตุการตาย และเมื่อรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จึงมอบให้ญาติไปดำเนิน” ผกก.สภ.ถ้ำพรรณรา กล่าว
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น