สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช แจ้งว่า สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) จะเปิดให้ผู้สนใจยื่นขอรับการสงเคราะห์ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้สนใจจำนวนมากจากราคายางที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยโครงการปลูกยางพาราในที่แห่งใหม่ ระยะที่ 3 เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2554 - 2556 ซึ่งเป็นไปตามความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม และ 21 ธันวาคม 2553 ตามพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง มาตรา 21 ทวิ เพื่อส่งเสริมการปลูกยางพันธุ์ดีในเขตพื้นที่เหมาะสม รวม 800,000 ไร่ แบ่งเป็น ภาคเหนือ 150,000 ไร่ / ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 500,000 ไร่ / ภาคกลางและภาคตะวันออก 100,000 ไร่ และภาคใต้ 50,000 ไร่
ซึ่งขณะนี้สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง หรือ สกย. ได้จัดทำประกาศหลักเกณฑ์การให้การสงเคราะห์ เพื่อรับสมัครและคัดเลือกเกษตรกรเข้าร่วมโครงการตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น ต้องมีที่ดินเป็นของตนเองไม่น้อยกว่า 2 ไร่ ไม่เคยมีสวนยางมาก่อน โดยจะให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่า (Grant) ในรูปปัจจัยการผลิตเพื่อปลูกยางพันธุ์ดีรายละ 2-15 ไร่ ได้แก่ พันธุ์ยาง ปุ๋ย และเมล็ดพืชคลุมดิน ในระยะ 3 ปีแรก เป็นเงิน 3,529 บาทต่อไร่ ส่วนตั้งแต่ปีที่ 4 ถึงปีที่ 7 เกษตรกรต้องใช้ทุนของตนเอง ซึ่งระหว่างรอเปิดกรีด รัฐจะสนับสนุนวงเงินกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อให้เกษตรกรมีความสามารถทางการเงิน ที่จะดูแลรักษาสวนยางให้มีคุณภาพ ควบคู่ไปกับความรู้ด้านการทำสวนยางอย่างถูกวิธีจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ตลอดเวลาที่ร่วมโครงการ
ทั้งนี้ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ - 15 มีนาคม 2554 สกย. จะเปิดให้ผู้สนใจสามารถยื่นขอรับการสงเคราะห์ได้ โดยมีหลักเกณฑ์ว่าต้องมีสัญชาติไทย มีที่ดินเป็นของตนเอง ตั้งแต่ 2 ไร่ขึ้นไปและไม่เคยมีสวนยางมาก่อน ให้นำหลักฐานและเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน ยื่นขอรับการสงเคราะห์ได้ ที่ สกย. แต่ละพื้นที่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โครงการนี้คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากเกษตรกรหน้าใหม่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากปัจจุบันราคายางแผ่นดิบพุ่งสูงถึงกิโลกรัมละ 150-160 บาทแล้ว
ข้อมูลจาก :: พรรณี กลสามัญ ส.ปชส.นครศรีธรรมราช
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น