วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555

ตร.นครศรีฯ จับผู้ช่วย ผอ.โรงเรียนเอกชนชื่อดัง ริเป็นพ่อค้ายา

เจ้าหน้าที่ตำรวจนครศรี ธรรมราช ทำการล่อซื้อยาบ้า พ่อค้าเป็นผู้ช่วย ผอ.ฝ่ายวิชาการโรงเรียนเอกชนชื่อดัง และสามารถขยายผล จับกุมได้เพิ่มอีก 2 ราย พร้อมของกลางยาเสพติดอีกจำนวนหนึ่ง
      
       เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 20 มี.ค.55 นายอำพล สังข์ทอง หัวหน้าชุดเฉพาะกิจศรีวิชัย (ฉก.ศรีวิชัย) ของผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ทำการสืบสวนขยายผลเครือข่ายยาเสพติดจนทราบว่า นายสุรพิณ ฉั่วเจริญ หรือ เอก อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/69 ม.1 ซ.สันติ ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการของโรงเรียนเอกชนชื่อดัง แห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีพฤติกรรมลักลอบค้ายาบ้าให้กับนักศึกษา และผู้เสพมาเป็นเวลานานแล้ว
      
       หลังจากที่สืบสวนจนมีข้อมูลแน่ชัด จึงได้จัดวางสายสืบเข้าทำการล่อซื้อยาบ้าจาก นายสุรพิณ จำนวน 10 เม็ด ราคา 2,000 บาท โดยนัดมอบของกันที่ร้านน้ำชาแห่งหนึ่ง ถนนปากนคร ต.ท่าวัง อ.เมือง เมื่อได้เวลานัดหมายนายะสุรพิณ ได้นำยาบ้ามามอบให้กับสายของเจ้าหน้าที่ จึงถือว่ามีความผิดสำเร็จฐานจำหน่ายยาเสพติด จึงแสดงตัวจับกุม นายสุรพิณ พร้อมของกลางยาบ้า 10 เม็ด และเงินล่อซื้อ 2,000 บาท
      
       ต่อมาได้นำตัว นายสุรพิณ ไปตรวจค้นที่บ้านพักพบยาบ้าเพิ่มอีก 34 เป็น รวมของกลางที่จับกุมเป็น 44 เม็ด ยาไอซ์ 4 ถุง หนัก 4.16 กรัมมูลค่ากว่า 1 หมื่นบาท และตรวจยึดโทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง จึงควบคุมตัวไปสอบปากคำ โดย นายสุรพิณ ระบุว่า รับซื้อยาบ้ามาจากเพื่อน คือ นางอิสราภรณ์ มาลายาภรณ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/1 ม.6 ต.นาเรียง อ.พรหมคีรี และ น.ส.อุบลวรรณ จินนุพันธ์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/1 ม.4 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
      
       ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ให้ นายสุรพิณ ล่อซื้อยาเสพติดจากสาวทั้ง 2 และสามารถจับกุมตัวได้พร้อมของกลางยาไอซ์ 6 ถุง หนัก 6.15 กรัม มูลค่า 2 หมื่นบาทเศษ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ทะเบียน คพฉ 784 นครศรีธรรมราช 1 คัน โดยการสอบสวน นายสุรพิณ และนางอิสราภรณ์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าว ส่วน น.ส.อุบลวรรณ ให้การปฏิเสธ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 และของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
      
       ทั้งนี้ สำหรับ นายสุรพิณ นั้น ทำงานเป็นผู้ช่วย ผอ.ฝ่ายวิชาการของโรงเรียนเอกชนชื่อดังของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ลักลอบค้ายาบ้า และยาไอซ์ให้กับนักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไปมานานแล้ว ก่อนเจ้าหน้าที่สืบทราบ และติดตามพฤติกรรมมาตลอด กระทั่งได้ทำการล่อซื้อและจับกุม ก่อนจะขยายผลจับเพิ่มได้อีก 2 รวมเป็น 3 คน และจะสอบสวนเพิ่มเติมหาผู้ร่วมขบวนการต่อไปด้วย
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ตร.ชะอวด บุกค้นบ้าน “ภิรมย์ บ้านตูล” พบอุปกรณ์เสพยา อาวุธปืน เจ้าตัวหนีทัน

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชะอวด บุกบ้าน ภิรมย์ บ้านตูลเจ้าตัวหนีทัน ค้นบ้านพบอุปกรณ์เสพยา อาวุธปืนเอ็ม 16 กระสุนอีกเพียบ ตร.เผย เป็นเป้าหมายถูกติดตามในคดียาเสพติด และอาวุธสงคราม
      
       เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 20 มี.ค.55 พ.ต.ท.ปิยวัฒน์ สุพรรณพงศ์ รองผกก.สส.สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ได้ควบคุมตัว นางอุไร ช่วยทอง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 297/3 ม.1 ต.บ้านตูล อ.ชะอวด และ นายวัชระ มะลิวงศ์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159/5 ม.5 ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช มาทำการสอบสวน หลังจากได้นำกำลังตำรวจเข้าทำการจู่โจมตรวจค้นบ้านเลขที่ 297/3 ม.1 ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช โดยใช้อำนาจเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.
      
       ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวนั้นเป้าหมายที่ถูกสืบสวนติดตามในคดีที่เกี่ยว เนื่องกับการใช้อาวุธสงครามก่อเหตุ และแหล่งค้ายาเสพติด โดยมีผู้ที่หลบหนีไปได้ 1 รายคือนายภิรมย์ ช่วยทอง อายุ 44 ปี สามีของ นางอุไร ที่ใช้ความชำนาญพื้นที่หลบหนีเข้าไปในป่า
      
       โดยผลในการตรวจค้นสามารถตรวจยึดอาวุธสงครามชนิดปืนยาวเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก กระสุน 35 นัด และอาวุธปืนเถื่อนชนิดต่างๆ อีก 4 กระบอก พร้อมกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนั้น ยังพบอุปกรณ์เสพยาไอซ์ 1 ชุด เสื้อเกราะกันกระสุน 2 ตัว วิกผมยาว 1 ชุด จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง รวมทั้งสมุดบัญชีเงินฝาก 6 เล่ม และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนางอุไร มาสอบสวนที่ สภ.ชะอวด ต่อไป ซึ่งการสอบปากคำนางอุไร ให้การปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่อง และไม่ส่วนรู้เห็นทั้งเรื่องอาวุธปืน และอื่นๆ แต่อย่างใด
      
       พ.ต.ท.ปิยวัฒน์ สุพรรณพงศ์ รองผกก.สส.สภ.ชะอวด ระบุว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับเป้าหมายการบุกตรวจจับ นายภิรมย์ ในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่า เป็นทีมปล้นทรัพย์ ซึ่งออกก่อเหตุหนักใน 3 อำเภอ คือ อ.ชะอวด, ร่อนพิบูลย์ และ อ.จุฬาภรณ์ โดยนายภิรมย์นั้นเป็นอดีตทหารพราน และหัวหน้าแก๊งมีความชำนาญในการให้อาวุธปืนเอ็ม 16 และเจ้าหน้าที่เชื่อว่า นายภิรมย์ นั้น มีส่วนพัวพันเกี่ยวกับยาเสพติด ส่วน นายวัชระ นั้น เป็นทีมเดียวกันกับคดีดังกล่าว ซึ่งจะเร่งทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

กระชากหน้ากากกำนันชื่อดังเมืองนครศรีฯ พบเป็นพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่

ตำรวจ สภ.บางขัน นครศรีธรรมราช จับกุมกำนันชื่อดังฐานค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมยึดทรัพย์และของกลางยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก
      
       เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 19 มี.ค.55 พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.ภูดิส นรสิงห์ รอง ผบก. ได้เดินทางเข้าสอบสวนนายสมพร อินทฤทธิ์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ม.1 ต.วังหิน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ตำแหน่งเป็นกำนันของตำบลวังหินที่รู้จักกันดีในนาม กำนันแดงผู้กว้างขวางในพื้นที่ อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนพฤติกรรมในการค้ายาเสพติดมาเป็นเวลาระยะหนึ่งแล้ว
      
       โดยในการจับกุมนั้น สืบเนื่องตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ธรรมชาช ส้มเขียวหวาน รอง สวป.สภ.บางขัน พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ในปกครองได้ทำการจับกุมนางห้อระหน๊ะ หมินหมัน ผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในพื้นที่ อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 24 เม็ด และได้สอบสวนขยายผลจนผู้ต้องหารายนี้ได้รับสารภาพว่าเป็นยาบ้าของกำนันแดง หรือสมพร อินทรฤทธิ์ กำนันตำบลวังหิน ที่นำมาส่งให้ในราคาเม็ดละ 200 บาท และจะนำไปขายต่อเม็ดละ 250-300 บาท
          หลังจากนั้น ร.ต.ท.ธรรมชาช พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามยาเสพติดในฐานะเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.เข้าทำการแสดงตัวและตรวจค้นในบ้านพักของกำนันสมพร
      
       จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบยาบ้า 106 เม็ด ยาไอซ์ 2 ซอง กระสุนปืนอาก้า 33 นัด แมกกาซีนอาก้า 1 อัน บัญชีรายชื่อลูกค้ายาเสพติด ภาพถ่ายอาวุธปืนสงครามชนิดเอ็ม 16 และใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.มาตรการป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน ยึดทรัพย์สินเป็นอาวุธปืน .357 จำนวน 1 กระบอก กระสุน 6 นัด เงินสด 103,000 บาท รถไถ 1 คัน รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อบีเอ็มบดับเบิลยู 1 คัน รถยนต์กระบะ 1 คัน สร้อยคอทองคำ 5 บาท สมุดเงินเงินฝากธนาคารหลายแห่งมีเงินหมุนเวียนหลายล้านบาท และทรัพย์สินอื่นๆ ที่อยู่ในระหว่างการขยายผลเข้าทำการยึดทรัพย์ตามขั้นตอน
      
       พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนติดตามพฤติการณ์ของกำนันแดงมาหลายเดือนติดต่อกัน เนื่องจากมีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ พบข้อมูลว่ามีการโอนเงินส่งไปยัง จ.เชียงราย คราวละหลายแสนบาทบ่อยครั้ง ซึ่งเสียดายว่าการสืบสวนก่อนหน้านี้พบว่ากำนันแดงมีการเก็บเงินสดไว้ที่บ้าน คราวละหลายล้านบาทซึ่งเชื่อว่าเป็นเงินที่ได้มาด้วยธุรกิจไม่สุจริต แต่วงที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุมนั้นได้ถูกเคลื่อนย้ายไปก่อนแล้ว ไม่เช่นนั้นจะสามารถยึดทรัพย์ได้อีกมาก พร้อมกันนี้ได้แจ้งไปยังอำเภอบางขันทราบถึงพฤติการณ์ของกำนันรายนี้แล้ว
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ตร.นครศรีฯ รวบมือฆ่าน้องชาย “โชเล่ย์” ได้แล้ว 1 ยังหนีอีก 1

เจ้าหน้าที่ตำรวจนครศรีธรรมราชตามรวบมือสังหารน้องชาย โชเล่ย์ ดอกกระโดนสารภาพสิ้นไส้อ้างผู้ตายชวนร่วมเพศวิตถารจนเกิดการวิวาทขึ้น ด้านโชเล่ย์ขอบคุณตำรวจเตรียมดูฤกษ์เผาศพน้องชายแล้ว
      
       เจ้าหน้าที่ตำรวจนครศรีธรรมราชตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุสังหารนาย ธนากร ช้างกลาง น้องชายของนายนิรันดร์ ช้างกลาง หรือโชเล่ย์ ดอกกระโดน ดาราตลกชื่อดัง โดยเมื่อเวลา 18.20 น.ของวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไฝจู ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พ.ต.ท.บุญมี ศิริปาละกะ รอง ผกก.สส.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนได้คุมตัวนายบุญทัน คำมะวงศ์ หรือโยอายุ 27 ปี อยู่ 19 ม.7 ต.กันเหลือ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ก่อเหตุสังหารนายธนากร ช้างกลาง อายุ 44 ปี ที่บ้านเลขที่ 42/5 ม.6 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช น้องชายของโชเล่ย์ ดอกกระโดน เสียชีวิตอย่างสยดสยอง สภาพศพเริ่มพองอืดเมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา มาทำการสอบสวนอย่างหนักหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้ติดตามจับกุมตัวนายบุญทันได้ในจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 17 มี.ค.หลังจากนั้นได้คุมตัวมายัง จ.นครศรีธรรมราช
      
       นายบุญทัน คำมะวงศ์ หรือโย ซึ่งอยู่ในสภาพอิดโรยเนื่องจากก่อนที่เจ้าหน้าที่จะคุมตัวมายัง สภ.เมืองนครศรีธรรมราชนั้น ได้มีการนำเข้าไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากไม่ต้องการให้ชาวบ้านในย่านที่เกิดเหตุทราบข่าวเกรงว่าอาจจะถูก ประชาทัณฑ์
      
       หลังจากนั้นจึงคุมตัวมาทำการสอบสวนอย่างเคร่งเครียด โดยมี พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เป็นผู้สอบปากคำด้วยตัวเอง และมีนายนิรันดร์ ช้างกลาง หรือโชเล่ย์ติดตามมาดูตัวผู้ต้องหาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและโกรธแค้น ซึ่งนายบุญทันได้ขอกราบแทบเท้านายนิรันดร์ หรือโชเล่ย์เพื่อขอขมา โดยอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจก่อเหตุ โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามห้ามนายโชเล่ย์ว่าอย่าทำร้ายนายบุญทันผู้ต้อง หา
      
       ต่อมา นายบุญทัน คำมะวงศ์ ยอมรับสารภาพต่อหน้าผู้สื่อข่าวว่า เป็นคนที่ลงมือฆ่านายธนากรด้วยการใช้มีดปังตอสับไก่ฟันเข้าที่บริเวณใบหน้า หลายครั้ง โดยก่อนเกิดเหตุนั้นตนเองได้เดินทางลงมาจากกรุงเทพฯ มาอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว เพื่อมาเที่ยวเนื่องจากพี่ชายคือนายสุนันท์ หรือแอร์ คำมะวงศ์ ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อเหตุนั้นมาอยู่กับนายธนากรอยู่แล้ว
      
       “ก่อนเกิดเหตุนายธนากรได้ขอร่วมเพศกับผมแบบชายกับชาย แต่ผมไม่ยอม นายธนากรได้ด่าผมอย่างสาดเสียเทเสีย จนเกิดทะเลาะวิวาทกันขึ้น ผมได้ใช้มีดปังตอสับนายธนากร โดยมีพี่ชายช่วยจับไว้จนเขาตาย จากนั้นพี่ชายของผมได้ใช้สีสเปรย์พ่นทับตามจุดต่างๆ ที่มีรอยลายนิ้วมือแล้วรื้อค้นทรัพย์สินต่างๆ หลบหนีผู้ต้องหารับสารภาพ
      
       พล.ต.ต.รณพงศ์ทรายแก้ว ผบก.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ในคดีนี้เจ้าหน้าที่ได้ขอหมายจับนายบุญทัน คำมะวงศ์ ที่ได้ตัวแล้ว และอีกรายคือนายสุนันท์ คำมะวงศ์ พี่ชายของนายบุญทันในทางการสอบสวนประมวลผลนั้น ทั้งสองคนมีพฤติกรรมร่วมกันฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ชัดเจน คือมีการเอาทรัพย์ไป แต่รถยนต์ที่คนร้ายนำไปด้วยนั้นได้นำไปจอดทิ้งไว้ที่ อ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดกลับมาได้แล้ว ส่วนนายสุนันท์นั้นเจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวโดยในทางการสืบสวนนั้นพบว่านาย สุนันท์มีพฤติกรรมในทำนองผู้ชายขายที่เรียกกันว่า ผีขนุนใน กทม.
      
       ด้าน นายนิรันดร์ ช้างกลาง หรือโชเล่ย์ ดอกกระโดน เปิดเผยว่า แม้ว่าตำรวจจะจับผู้ต้องหาได้แล้ว ลึกๆ แล้วไม่ได้ดีใจ แต่อยากได้น้องชายกลับมามากกว่า มีคนหัวใจสลายไปหลายคน ทุกคนอยากได้น้องชายคืนมา แต่อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทุ่มเทในการทำหน้าที่จนจับ กุมตัวได้
      
       “ส่วนศพน้องชายที่ยังแช่เย็นอยู่ในโลงเย็นนั้น จะเปิดบำเพ็ญกุศลอีกคืน แล้วจะหารือกับผู้เฒ่าผู้แก่ว่าจะเผาได้ในวันไหนจะดำเนินการไปตามนั้น แต่สิ่งที่ห่วงในตอนนี้คือเรื่องของสุนัขน้องชายที่มีอยู่ราว 50 ตัวที่ต้องเลี้ยงดู และกำลังหาผู้อุปการะหลังจากนี้โชเล่ย์กล่าว
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์