ชาวบ้านพบซากลูกปลาโลมาตายในคลองปากนคร สันนิษฐานอาจว่ายน้ำพลัดหลงกับฝูง เข้ามาในบริเวณปากน้ำชั้นใน ก่อนถึงเวลาช่วงน้ำลงเลยเกยตื้นทำให้อ่อนล้าจนตาย
วันที่ 19 มิ.ย.55 ชาวบ้านหมู่ 6 ตำบลปากนคร อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช พบซากลูกปลาโลมา คาดว่า อายุประมาณ 1 ปี ลอยอยู่ในคลองสาขา ของคลองปากน้ำปากนคร และเข้ามาเกยในสภาพเริ่มมีกลิ่น ที่บริเวณท่าน้ำหน้าบ้านพักของ นางสุมนต์ มณีจันทร์ อายุ 72 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมคลองในย่านนั้น ก่อนที่จะช่วยกันนำขึ้นมาเตรียมรอเจ้าหน้าที่ประมงเข้ามารับซากไปตรวจ พิสูจน์
โดยเมื่อตรวจสอบชั้นต้นนั้น พบว่า เป็นซากโลมาหัวบาตร หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า โลมาหมอน ไม่ทราบเพศมีความยาวประมาณ 1 เมตรเศษ อายุประมาณ 1 ปี ชาวประมงชายฝั่งที่มาดูสันนิษฐานว่า โลมาตัวนี้อาจว่ายพลัดหลงกับฝูงและแม่ ก่อนหลงเข้ามาในคลองปากน้ำปากนคร ที่เชื่อมกับปากอ่าว และว่ายหลงเข้ามาในคลองสาขา หลังจากที่น้ำลดระดับในช่วงน้ำขึ้นน้ำลงประจำวัน อาจไปเกยติดอยู่ในตม จนเหนื่อยล้าและตายลงในที่สุด กระทั่งชาวบ้านมาพบ แต่เป็นที่น่าแปลกใจว่าในย่านนี้ไม่เคยปรากฏมีโลมาเคยหลงเข้ามาก่อน อย่างไรก็ตามต้องให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์อีกครั้ง
วันที่ 19 มิ.ย.55 ชาวบ้านหมู่ 6 ตำบลปากนคร อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช พบซากลูกปลาโลมา คาดว่า อายุประมาณ 1 ปี ลอยอยู่ในคลองสาขา ของคลองปากน้ำปากนคร และเข้ามาเกยในสภาพเริ่มมีกลิ่น ที่บริเวณท่าน้ำหน้าบ้านพักของ นางสุมนต์ มณีจันทร์ อายุ 72 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมคลองในย่านนั้น ก่อนที่จะช่วยกันนำขึ้นมาเตรียมรอเจ้าหน้าที่ประมงเข้ามารับซากไปตรวจ พิสูจน์
โดยเมื่อตรวจสอบชั้นต้นนั้น พบว่า เป็นซากโลมาหัวบาตร หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า โลมาหมอน ไม่ทราบเพศมีความยาวประมาณ 1 เมตรเศษ อายุประมาณ 1 ปี ชาวประมงชายฝั่งที่มาดูสันนิษฐานว่า โลมาตัวนี้อาจว่ายพลัดหลงกับฝูงและแม่ ก่อนหลงเข้ามาในคลองปากน้ำปากนคร ที่เชื่อมกับปากอ่าว และว่ายหลงเข้ามาในคลองสาขา หลังจากที่น้ำลดระดับในช่วงน้ำขึ้นน้ำลงประจำวัน อาจไปเกยติดอยู่ในตม จนเหนื่อยล้าและตายลงในที่สุด กระทั่งชาวบ้านมาพบ แต่เป็นที่น่าแปลกใจว่าในย่านนี้ไม่เคยปรากฏมีโลมาเคยหลงเข้ามาก่อน อย่างไรก็ตามต้องให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์อีกครั้ง
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น