วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2554

คนคอนเตรียมบี้ รมว.ศึกษาฯ เกียร์ว่างโครงการโรงพยาบาลใน มวล.

คนนครศรี ฮึ่ม รมว.ศึกษาฯไม่นำเรื่องสานต่อโครงการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มูลค่าวงเงิน 1.68 พันล้านบาท เข้า ครม.ใบปลิวว่อนเรียกร้องแจง 3 ข้อ-เตรียมรวมพลรณรงค์สร้างเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ภาคใต้ตอนบน       
       
วันที่ 14 ธ.ค.54 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเขต อ.ท่าศาลา และใกล้เคียง ได้มีแผ่นป้ายไวนิลเชิญชวนเข้าร่วมการรวมพลครั้งใหญ่เพื่อรวมพลังแสดงจุดยืน ของชาว อ.ท่าศาลา และชาวนครศรีธรรมราช ในความต้องการโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้ติดอยู่ในขุดสัญจรต่างๆ ทั่วเมือง รวมทั้งยังมีใบปลิวในข้อความทำนองเดียวกันนี้ออกเผยแพร่เชิญชวนอีกเป็นจำนวน มาก
      
       โดยในสาระสำคัญของใบปลิวดังกล่าวได้ระบุข้อเรียกร้อง 3 ประการ คือ 1.ต้องให้ รมว.ศึกษาธิการนำโครงการศูนย์การแพทย์ของ ม.วลัยลักษณ์ เข้า ครม.โดยเร่งด่วน 2.รมว.ศึกษาธิการต้องอธิบายเหตุผลที่ไม่นำเรื่องโครงการก่อสร้างศูนย์การ แพทย์เข้า ครม.ในหลายครั้งที่ผ่านมา และ 3.รมว.ศึกษาธิการ ต้องรับประกันว่าจะไม่ใช้ 2 มาตรฐานในการจัดโครงการและงบประมาณลงพื้นที่ในภาคใต้กับภาคอื่น
      
       สำหรับโรงพยาบาลดังกล่าวได้ถูกอนุมัติโดยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้อนุมัติโครงการตามที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มีโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช วงเงิน 1.68 พันล้านบาท เป็นโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้ตอนบน จำนวนเตียง 750 เตียง ซึ่งเป็นการก่องบผูกพัน
      
       โดยได้อนุมัติงบประมาณก้อนแรกลงมาแล้วเป็นเงิน 136 ล้านบาท ในโครงการจะมีบุคลากร เครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย ก่อสร้างในเนื้อที่ของมหาวิทยาลัยจำนวน 300 ไร่ มวล.ได้เปิดสอนหลักสูตรแพทยศาสตร์ มีนักศึกษาแพทย์กำลังศึกษาอยู่แล้วเป็นปีที่ 3 หากมีโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์เกิดขึ้นก็จะทำให้การเรียนการสอนของนักศึกษา แพทย์สามารถใช้ รพ.ดังกล่าวเป็นสถานที่ฝึกสอนหรือเรียนรู้ไปด้วย
      
       ซึ่งกรณีได้ดำเนินการประกวดราคาจนได้บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างเรียบ ร้อยแล้ว แต่ยังไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้เนื่องจาก นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ ระบุว่าเป็นงบประมาณผูกพันมีวงเงินรวมตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ก่อนลงนามสัญญาจ้างจึงต้องนำเข้าสู่การพิจารณา ครม.ใหม่อีกครั้ง ซึ่ง น.ส.วลัยรัตน์ ศรีอรุณ ผอ.สำนักงบประมาณ ได้มีหนังสือแจ้งถึงมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ทราบในขั้นตอนแล้ว
      
       ว่าที่ ร.ต.กำพล จิตตะณัง เครือข่ายวลัยลักษณ์เพื่อปวงชน กล่าวว่า กรณีเตรียมมีความเคลื่อนไหวที่สำคัญ คือ ในวันที่ 16 ธ.ค.54 เวลา 14.00 น.กลุ่มนักวิชาการ และนักศึกษา มวล.รวมทั้งประชาชนในพื้นที่ได้นัดหมายชุมนุมบริเวณสนามหญ้าสี่แยกบ้านโดน ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เพื่อชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการหรือผลักดันให้มีการก่อสร้างโรง พยาบาลศูนย์การแพทย์ มวล.โดยเร็ว หลังจากมีความกังวลว่าอาจจะทำให้การก่อสร้างล่าช้าออกไปเนื่องจากปัญหาทาง การเมืองที่มีการเปลี่ยนอำนาจจากรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
      
       “โรงพยาบาลนี้จะเป็นประโยชน์กับการผลิตแพทย์ของประเทศไทย และจะเป็นที่พึ่งพาอาศัยทางสุขภาพของประชาชนทั่วภาคใต้ หลักๆ ขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการต้องเร่งนำเรื่องนี้เข้า ครม.ซึ่งติดอยู่ที่ตัวรัฐมนตรีเท่านั้น มันจึงเกิดคำถามต่อว่าเหตุใดจึงไม่นำเข้า ครม.มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ กระบวนการทุกอย่างเสร็จหมดแล้วเหลือแค่ขั้นตอนนี้เพื่อให้ ครม.เห็นชอบเท่านั้น ซึ่งจะผ่านหรือไม่ผ่าน ค่อยมาว่ากันอีกทีว่าที่ ร.ต.กำพล กล่าว
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

สารวัตรนักเรียนนครศรีฯบุกทลายแก๊งโจ๋ตั้งวงต้มกระท่อมแล้วเซ็กซ์หมู่

เจ้าหน้าที่ตำรวจ และสารวัตรนักเรียนนครศรีธรรมราช บุกทลายแก๊งวัยรุ่น โดดเรียนมั่วสุมเสพยาเสพติด และเซ็กซ์หมู่ ในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ย่านถนนศรีธรรมโศก อ.เมืองนครศรีธรรมราช สามารถควบคุมตัวได้ หญิง 4 ชาย 11      
       
วันที่ 13 ธ.ค.54 เมื่อเวลา 13.30 น.ศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุ บก.ภ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งว่า มีนักเรียนหลายคนเข้าไปมั่วสุมอยู่ในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ย่านถนนศรีธรรมโศก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากนั้น พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไฝจู ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช จึงได้วิทยุสั่งการให้สายตรวจรถจักรยานยนต์เข้าทำการตรวจสอบ โดยมี นายสมพงษ์ อยู่เถาว์ หัวหน้าศูนย์ส่งเสริมความประพฤตินักเรียน นักศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1 เข้าร่วมดำเนินการทันที
      
       ทั้งนี้ เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า มีนักเรียนนักศึกษาทั้งชาย และหญิง รวมตัวมามั่วสุมเสพยาเสพติดกันเป็นประจำ และชี้เป้าให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบห้องพักจำนวน 3 ห้อง โดยห้องแรกพบว่า มีนักเรียนหญิงจำนวน 4 คน ชาย 2 คน โดย 1 ในนักเรียนหญิงอยู่ในสภาพพยายามนุ่งผ้าขนหนูกระโจมอกลุกจากเตียง ส่วนนักเรียนชายอีกคนยังนอนอยู่บนที่นอน เจ้าหน้าที่จึงให้ลุกขึ้นแต่งตัวแล้วมารวมตัวกัน และยังเคาะต่อไปอีก 2 ห้อง พบนักเรียนชายชั้นมัธยมอีก 9 คน ตั้งวงพี้น้ำต้มกระท่อม และมีร่องรอยการเสพยาไอซ์ ร่องรอยการทิ้งลงไปในโถส้วม
      
       ซึ่งเมื่อจากการสอบถามนักเรียนทั้งหมด ทราบว่า มาจากสถาบันการศึกษาที่มีชื่อในจังหวัดนครศรีธรรมราช 3 แห่ง เป็นนักเรียนชั้นมัธยมทั้งหมดเป็นชาย 11 คน หญิง 4 คน โดยเมื่อสอบถามได้ความว่า ได้หนีเรียนลงขันกันมาเช่าห้องพัก เพื่อมามั่วสุมกัน โดยมีทั้งคู่รักที่เมื่อมาเสพน้ำต้มกระท่อมแล้ว ก็มั่วสุมทางเพศกันต่อหน้าเพื่อนที่นั่งดู โดยพลเมืองดีที่ทราบถึงพฤติกรรมได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และสารวัตรนักเรียนเข้ามาดำเนินการ
      
       โดยหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้อาจารย์ฝ่ายปกครองต้นสังกัดทราบ รวมทั้งผู้ปกครองแล้วให้มารับตัวไปดำเนินการต่อไป
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ยิงทิ้ง “แอ๋ม อินคีรี” ขาใหญ่แก๊งค้ายาเสพติดเมืองคอน

ยิงทิ้งขาใหญ่วงการนอกกฎหมายกลางถนนปากซอยเข้าวัดโรงฆ้อง ต.ท่างิ้ว อ.เมืองนครศรีธรรมราช สภาพศพถืออุปกรณ์เสพยาคามือ ตำรวจพบมีคดีหมายจับคดียาเสพติดเป็นหางว่าว
      
       
วันที่ 12 ธ.ค.54 เมื่อเวลา 07.30 น. พ.ต.ท.คมศักดิ์ ชุมทอง พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งว่า มีเหตุพบศพคนถูกฆาตกรรม ทิ้งอยู่ริมถนนทางเข้าวัดโรงฆ้อง บ้านโคกทึง ม.3 ต.ท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากนั้น จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไฝจู ผกก. พ.ต.ท.ศิรพงษ์ โพธิ์พัฒน์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สมชาย มวยดี สวป. พ.ต.ท.วินัย คงประพันธ์ สว.สส. แพทย์เวรโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจเข้าทำการสอบสวนในที่เกิดเหตุทันที
      
       ในที่เกิดเหตุพบศพสภาพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ตัวแข็งทื่อ เลือดเริ่มจับตัวแข็ง ชันสูตรเบื้องต้นพบใบหน้ามีหนวดเคราเต็มใบหน้า สักรูปมังกรที่กลางแผ่นหลังและลำตัวด้านหน้าเต็มตัว และบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน 2 ชนิดคืออาวุธปืนลูกซองเข้าบริเวณกลางแผ่นหลังทะลุหน้าอก 3 นัด และอาวุธปืนขนาด .38 เข้าบริเวณใต้คาง 2 นัด กระสุนฝังใน มือซ้ายกำอุปกรณ์การเสพยาไอซ์ไว้แน่น นอกจากนี้ ยังพบใบพืชกระท่อมจำนวน 5 ใบในกระเป๋ากางเกงผู้ตาย โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงของผู้ตาย จำนวน 1 เครื่อง และพบเพียงกระเป๋าเงินแต่ไม่มีเงิน โดยในกระเป๋ามีเพียงบัตรเอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 1 ใบเท่านั้น แต่ไม่พบหลักฐานอื่นๆ แพทย์ชันสูตรเบื้องต้นนั้นพบว่าผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 8 ชั่วโมง
      
       ต่อมาทราบว่าผู้ตายคือ นายสุพัตร ศรีสมบูรณ์ หรือฉายา แอ๋ม อินคีรีอายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 ม.3 ต.อินคีรี อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช เป็นผู้ต้องหาที่มีหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชของ สภ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ในคดีจำหน่ายยาไอซ์ในพื้นที่ อ.พรหมคีรี และพื้นที่ใกล้เคียงมานานแล้ว
      
       พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไฝจู ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช กล่าวว่า จากการตรวจสอบผู้ตายน่าจะถูกแก๊งค้ายาเสพติดในพื้นที่ อ.พรหมคีรี ซึ่งโกรธแค้นผู้ตายที่อาจจะมีการหักหลังกันในธุรกิจที่ผู้ตายอาจไปมีส่วน เกี่ยวข้อง โดยอาจจะมาตกลงอะไรกันบางอย่าง จากนั้นเมื่อไม่สามารถตกลงกันได้จึงถูกรุมสังหารในที่สุด โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งสืบสวนขยายผลหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไปแล้ว
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์