วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2554
ฟ้าหญิงฯเสด็จ กู้วิกฤต'นบพิตำ' ทุ่มสรรพกำลังฟื้นใต้
“ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์” เสด็จฯเยี่ยมชาวบ้านในต.กรุงชิง ต.นบพิตำ วันนี้ 5 เม.ย.54 ระดมสรรพกำลังเร่งกู้น้ำท่วมใต้ ขณะที่เมืองคอนน้ำยังท่วมสูง 7 อำเภอ และระดับน้ำคงตัวและลดลง16 ส่วนที่อ.พุนพินและท่าฉาง ของจ.สุราษฎร์ฯ ระดับน้ำยังสูง ส่วนที่ตรัง-พัทลุงน้ำเริ่มลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ริมทะเลสาบสงขลา ด้านคนระโนดสุดทนไม่รอความช่วยเหลือจากภาครัฐระดมเครื่องสูบน้ำ 200 เครื่อง ช่วยกันสูบน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมใน 3 ตำบลหลังนาข้าวจมน้ำเสียหายแล้วว่า12,000ไร่
วันที่ 4 เม.ย. 54 สถานการณ์ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราชตลอด 2 วันที่ผ่านมา ท้องฟ้าเปิดมีแสงแดดจัดเกือบทั้งวัน ทำให้การเข้าพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศดังกล่าวไม่เป็นอุปสรรคต่อการบิน การขนส่งเครื่องอุปโภคบริโภคและอพยพประชาชนลงมาอีกหลายรายเป็นไปอย่างราบรื่น
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 11.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.อ.ดาวพงศ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก และคณะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มายังสนามโรงเรียนนบพิตำวิทยา ซึ่งเป็นศูนย์อพยพและให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ มทภ.4, พล.ต.เดชา กิ่งวงษา รองมทภ.4, นายเดชา กังสนันท์ ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราชให้การต้อนรับและสรุปสถานการณ์ของ อ.นบพิตำ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้ระดมนำเอาทหารช่างมาจำนวน 800 กว่านายจากทุกกองทัพภาคคือทหารช่างพร้อมด้วยเครื่องจักรกลหนัก เร่งลงพื้นที่ฟื้นฟูสภาพถนนหนทางอย่างเร่งด่วน และมาเป็นกำลังใจให้กำลังพลทุกส่วนที่ร่วมกันทุ่มเทกำลังกายกำลังใจการปฏิบัติหน้าที่ และขอบอกว่าในพื้นที่ภาคใต้ทหารได้ทุ่มสรรพกำลังมาลงในพื้นอย่างเต็มพิกัดเพื่อช่วยเหลือประชาชน
**ห่วงเฮลิคอปเตอร์บินหนัก-นักบินอ่อนล้า
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่เป็นห่วงมากอีกเรื่องคือเรื่องการอพยพคนและอาหารทาง ฮ.ซึ่งทราบว่าเที่ยวบินกว่า 70-80 เที่ยวแล้ว ถือว่าบินอย่างหนัก อันนี้ถือว่าอันตรายมาก อาจจะต้องพักเครื่องบ้างเพราะอาจจะเกิดอันตรายอุบัติเหตุขึ้นได้ต้องระวังด้วยในเรื่องนี้ด้วยนักบินก็ต้องพักผ่อนบ้าง ด้วยเจ้าหน้าที่ต้องปลอดภัยไว้ก่อนและต้องมีการสับเปลี่ยนกำลังที่เหนื่อยล้ากัน
** “ฟ้าหญิงฯ”เสด็จนบพิตำวันนี้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ทรงมีความห่วงใยพสกนิกรชาวใต้ทุกคนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยครั้งนี้ และทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ลงมาช่วยเหลือพี่น้องชาวภาคใต้อย่างต่อเนื่อง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงต่อพสกนิกรชาวภาคใต้
ในวันนี้(5 เม.ย.)สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์พระองค์ทรงมีความห่วงใยต่อความเดือดร้อนของพสกนิกรชาว อ.นบพิตำ ที่ประสบภัยพิบัติ พระองค์จะทรงเสด็จเยี่ยมพสกนิกรชาว ต.กรุงชิงและต.นบพิตำ เพราะพระองค์ทรงมีความห่วงใย แม้ว่าพระองค์ท่านจะทรงมีพลานามัยไม่แข็งแรงดีนัก ยังทรงเสด็จมาเยี่ยมพสกนิกรชาว ต.กรุงชิง ต.นบพิตำ
**เร่งฟื้นฟูจิตใจชาวสิชล
ส่วนที่ อ.สิชล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายได้เข้าให้ความช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับกระทบจากเหตุการณ์ซึ่งมีทั้งสูญเสียบ้าน ทรัพย์สิน เรือกสวนไปอย่างสิ้นเชิงหลายครัวเรือน รวมทั้งการหวาดวิตกหรือหวาดผวาจากเหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งนี้ที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันอบจ.นครศรีธรรมราช ได้เตรียมแผนในการเคลื่อนย้ายเครื่องจักรกลหนักเข้าปรับปรุงพื้นที่ประสบภัยต่างๆรวมทั้งปรับปรุงเปิดถนนหนทางที่ได้รับความเสียหาย
**สนามบินเปิดให้บริการวันนี้
ด้านนายนิสิต สมบัติ ผอ.ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบซ่อมแซมระบบไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งมีระบบไฟนำทางระบบไฟนำร่องเรียบร้อยแล้ว พื้นผิวรันเวย์ได้รับการตรวจสอบและทำความสะอาดเรียบแล้วโดยได้รับการอนุเคราะห์จากกรมทางหลวง ซึ่งตรวจสอบในเบื้องต้น สภาพยังเรียบร้อยและได้มีการเปิดทดสอบระบบทุกระบบรวมทั้งการลงจอดแล้ว โดยเที่ยวบินทดสอบกรมการขนส่งทางอากาศเมื่อผ่านการทดสอบจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในวันนี้(5 เม.ย.)เป็นเที่ยวบินแรก และจากการที่ต้องปิดสนามบินรวมถึงการซ่อมบำรุงทำให้มีความเสียหายที่เกิดขึ้นกว่า 50 ล้านบาท
**นครศรีฯ เสียหายหนัก
สำหรับจ.นครศรีธรรมราช มีพื้นที่ประสบภัยรวม 23 อำเภอ 161 ตำบล ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 900,000 คน เสียชีวิต21 ราย มีการอพยพประชาชนไปอยู่ที่ปลอดภัย 22,261 คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 22 หลัง และเสียหายบางส่วน 2,446 หลัง ส่วนความเสียหายอื่นๆ อยู่ระหว่างการสำรวจ มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 1,500 ล้านบาท
ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปในจ.นครศรีธรรมราชถึงขณะนี้ยังคงมีน้ำท่วมสูงใน 7 อำเภอ คือ อ.หัวไทร เฉลิมพระเกียรติ ปากพนัง เชียรใหญ่ ถ้ำพรรณรา ฉวาง และทุ่งใหญ่ และมีน้ำท่วม ระดับน้ำคงตัวและลดลงใน 16 อำเภอ คือ ลานสกา พิปูน พระพรหม เมืองนครศรีธรรมราช นบพิตำ พรหมคีรี ท่าศาลา สิชล ขนอม ช้างกลาง นาบอน ทุ่งสง บางขัน ร่อนพิบูลย์ จุฬาภรณ์ และชะอวด
**วิญญาณเฮี้ยนเข้าฝันช่วยขุดศพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีนางจิราภรณ์ บุญญานุรักษ์ อายุ 65 ปี ที่ถูกน้ำป่าและดินโคลนพัดหายไปในพื้นที่ ม.7 ต.เขาน้อย อ.สิชล ในวันที่ 30 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยเมื่อช่วงเช้า พ.ต.อ.ปวร พรพรหมมา ผกก.สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งว่าพบศพถูกกระแสโคลนพัดถมร่างผู้หญิงที่บริเวณกอไผ่ริมคลองท่าควาย หมู่ที่ 4 ต.เขาน้อย อ.สิชล หลังจากนั้น จึงสั่งการให้พนักงานสอบสวนเข้าทำการชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ พบว่าสภาพศพนอนหงายถูกฝังด้วยดินโคลนและเศษไม้จำนวนมากส่งกลิ่นไปทั่วบริเวณ
นายสุชาติ งามขำ ผู้พบศพรายแรกเปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาขณะที่กำลังนอนหลับได้ฝันว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งมาบอกว่าให้ช่วยนำร่างขึ้นมาจากน้ำเพราะหนาวมาก โดยบอกว่าร่างติดอยู่ริมคลอง หลังจากตื่นมาขึ้นไม่เชื่อว่าฝันนั้นจะเป็นจริง รุ่งเช้าเดินพิสูจน์ตามริมคลองท่าควายเมื่อมาถึงใต้กอไผ่ริมคลองท่าควาย สังเกตเห็นเหมือนลักษณะขาคนโผล่ออกมาจึงเข้าไปดูจึงพบว่ามีศพถูกดินโคลนฝังอยู่ตามที่ฝันไว้จริง ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่น่าเชื่อว่าเกิดขึ้นจริงแต่มันก็เป็นความจริง
**ระดับน้ำท่วมที่พุนพินยังสูง
ด้านสถานการณ์ล่าสุดน้ำท่วมในจ.สุราษฎร์ธานี พื้นที่ที่มีน้ำท่วมสูงขณะนี้คือ พื้นที่อ.พุนพิน เมือง และบ้านนาเดิม โดยเฉพาะที่อ.พุนพินระดับน้ำอยู่ในภาวะทรงตัวไม่ลดและไม่เพิ่มจากเดิมมากนักในพื้นที่รอบนอก แต่ในพื้นที่เทศบาลเมืองท่าข้าม อ.พุนพินระดับน้ำได้ลดลงประมาณ 60-70 ซม. จากเดิมที่ระดับน้ำสูง 3 เมตร ซึ่งคาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มจะสามารถเปิดการจราจรได้อย่างเร็วที่สุดในช่วงเย็นของวันนี้ (5 เม.ย.) ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยได้เร่งระดมให้การช่วยเหลือทั้งการแจกจ่ายอาหารกล่อง ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม ฯลฯ ไปยังชาวบ้านที่ติดอยู่ในบ้านที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม และประชาชนที่อาศัยอยู่ในศูนย์อพยพผู้ประสบภัยตามจุดต่างๆ
**น้ำท่วมตรังคลี่คลาย
สำหรับที่จ.ตรัง นายนิพันธ์ ศิริธร นายอำเภอเมืองตรัง กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในจ.ตรัง ในพื้นที่ 72 ตำบล 5 เทศบาล 17 ชุมชน ส่วนใหญ่เริ่มคลี่คลายลงตามลำดับ หลังจากที่ฝนหยุดตกมาแล้ว 2 วัน ประกอบกับไม่มีน้ำทะเลหนุน ทำให้ระดับน้ำบนถนนหนทางต่างๆ ลดลงไปเกือบทั้งหมด ยกเว้นเฉพาะที่ราบลุ่มบริเวณริมแม่น้ำตรัง ในพื้นที่ 3 ตำบลของอ.เมืองตรัง คือ ต.นาตาล่วง บางรัก และหนองตรุด และในบางส่วนของตำบลทั้งมีพื้นที่อยู่ติดกัน
**พัทลุงน้ำยังท่วมขัง4 อำเภอ
ในจ.พัทลุง ขณะนี้ระดับน้ำได้ลดลงแล้วหลังฝนหยุดตก แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ริมทะลสาบสงขลา ใน 4 อำเภอ คือ อ.เมือง ควนขนุน เขาชัยสน และบางแก้ว มีผู้ประสบภัยยังได้รับความเดือดร้อน จำนวน 150 หมู่บ้าน มีระดับน้ำสูงเฉลี่ย 70 เซนติเมตร
โดยเฉพาะที่หมู่ที่ 2 ต.มะกอกเหนือ หมู่ที่ 4,5,9 ต.พนางตุง ม 7 ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน หมู่ 4, 7, 11 ต.ลำปำ ม.5,7,9 ต.ชัยบุรี ม.8, 9, 10, ต.พญาขันต์ อ.เมือง ม.3, 4 ต.จองถนน หมู่ 6, 8 ต.หานโพธิ์ อ.เขาชัยสน น้ำยังคงท่วมสูงกว่าพื้นที่อื่นๆ ระดับน้ำสูง 1 เมตร ชาวบ้านจำนวน 800 ครัวเรือนยังคงได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะน้ำดื่มที่สะอาด เนื่องจากระบบน้ำประปาในหมู่บ้านไม่สามารถผลิตน้ำได้
**ชาวระโนดสุดทนสูบน้ำกู้นาข้าว
ส่วนที่ จ.สงขลา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแม้สถานการณ์โดยรวมในพื้นที่น้ำท่วมทั้ง อ.ระโนด และ อ.กระแสสินธุ์ จะคลี่คลายแต่ยังคงมีภาวะน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรที่อยู่ติดริมทะเลสาบสงขลา เช่นในพื้นที่3 ตำบลของอ.ระโนด คือ ต.พังยาง โรง และระโนด จนชาวบ้าน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะน้ำท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร ต้องระดมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่หรือเครื่องสูบน้ำแบบพญานาค กว่า 200 เครื่องจากทั่วทุกหมู่บ้าน มาสูบน้ำที่ท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ 3 ตำบล เพื่อระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลา รวมทั้งได้ระดมเงินมาช่วยกันเป็นค่าน้ำมันและค่าใช้จ่ายต่างๆ หลังจากที่ไม่สามารถรอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐที่ล่าช้าได้
ข้อมูลจาก..ASTVผู้จัดการรายวัน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น