วันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2554
ชีนุ๊คเริ่มปฏิบัติการกู้ภัยทางอากาศที่จุดแรกหมู่ 6 บ้านปากลง ตำบลกรุงชิงทันทีที่ถึง
บรรยากาศภายในชีนุ๊คในช่วงที่อพยพชาวบ้านออกมาจากพื้นที่ตัดขาดท่ามกลางสภาพอากาศที่กำลังปิด โดยผู้อพยพส่วนใหญ่ยังคงเป็นเด็กเล็ก และผู้สูงอายุ บางคนพิการเดินไม่ได้ สีหน้าของทุกคนยังคงตื่นกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทันทีที่มาถึงผู้อพยพก็จะได้รับการช่วยเหลือ และดูแลอยู่ที่ศูนย์อพยพผู้ประสบภัยโรงเรียนนบพิตำวิทยา บางครอบครัวไม่สามารถติดต่อกันได้นานนับสัปดาห์ ก็ได้มาเจอกันที่นี่ อย่างเช่น ครอบครัวของน้องปังปอนด์ วัย 1 ขวบ เดินทางมากับคุณยาย เพราะพ่อกับแม่ต้องพาพี่สาววัย 2 ขวบที่ป่วยออกมารักษาตัวก่อน วินาทีที่เจอหน้ากันผู้เป็นพ่อถึงกับกลั่นน้ำตาไว้ไม่อยู่ด้วยความเป็นห่วงลูกและแม่
สำหรับบ้านปากลง ยังคงเป็นจุดเดียวที่ชีนุ๊คสามารถลงจอดได้ โดยมีชาวบ้านยังคงติดอยู่ที่นั่นร้อยคน ทำให้มีทหารและหน่วยกู้ภัย สามารถเข้าไปช่วยเหลือฟื้นฟูได้มากกว่าจุดอื่น ๆ และตอนนี้อยู่ระหว่างเร่งสร้างสะพานข้ามคลองซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางเข้าออกหมู่บ้าน โดยมีชาวบ้านต่างช่วยกันคนละไม้คนละมือ คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 1-2 วัน
หมู่บ้านปากลงมีชาวบ้านกว่า 1,200 คน และมีผู้อพยพออกไปทั้งสิ้นประมาณ 250 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง หรือมีอาการเจ็บปวดหนักเท่านั้น ส่วนที่เหลือไม่ยอมอพยพ เพราะเข้าใจว่าสถานการณ์กำลังจะคลี่คลาย แต่ทางศูนย์อพยพต้องเร่งทำความเข้าใจว่าภายใน 2-3 วันนี้ จะมีฝนตกหนักลงมาอีกครั้ง ซึ่งมีความเสี่ยงมากขึ้นเป็น 2 เท่า หากยังอยู่ในพื้นที่ต่อ
โดยตอนนี้หากชาวบ้านเข้าใจในสถานการณ์และยอมอพยพ ชีนุ๊ค 2 ลำ ก็พร้อมที่จะอพยพชาวบ้านออกมาได้ทั้งหมด โดยในแต่ละเที่ยวสามารถบรรทุกคนได้มากกว่า 90 คน ขณะที่ดิวอี้ และแบล็คฮอร์ค ก็ยังคงปฏิบัติการกู้ภัยทางอากาศตลอดทั้งวัน ขณะนี้มีประชาชนอพยพมาอยู่ที่ศูนย์ประมาณ 400 คน
ส่วนความคืบหน้าในการตามหาน้องเฟิร์ส หรือเด็กหญิงเสาวลักษณ์ วโรรส ล่าสุดได้พบศพของน้องเฟิร์ส ลอยมาติดที่คลอง ใกล้ ๆ กับวัดโรงเหล็ก ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง กว่าจะนำศพออกมาได้ รวมแล้วตอนนี้ที่อำเภอนบพิตำ พบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย
ข้อมูลจาก..ครอบครัวข่าว3
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น