วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2554

สลดลูกโลมาป่วยว่ายน้ำพึ่งหมู่บ้านชาวประมงพยายามช่วยยื้อชีวิตแต่ไม่รอด


สลดลูกปลาโลมาว่านน้ำเข้ามาพึ่งหมูบ้านชาวประมงบ้านปากพยิง ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังมาอาการป่วย ชาวบ้านพยายามให้ความช่วยเหลือแต่ท้ายที่สุดได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเสียดาย

วันที่ 11 มี.ค.54 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้านใน ม.8 บ้านปากพะยิง ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ว่าพบปลาโลมาซึ่งคาดว่าเป็นโลมาปากขวดขนาดยาวประมาณ 1 เมตรว่ายน้ำเข้ามาในบริเวณปากน้ำ ด้วยท่าทีอ่อนเพลียเหมือนจะขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน และชาวบ้านพยายามให้ความช่วยเหลือแต่ท้ายที่สุดได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเสียดาย

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวจึงเข้าทำการตรวจสอบพบว่า ปลาโลมาตัวดังกล่าวได้ถูกนำขึ้นมาจากน้ำแล้ว โดยมาตั้งรอไว้ให้เจ้าหน้าที่ประมงเข้าทำการตรวจสอบถึงสาเหตุการตายอย่างแน่ชัด โดยพบว่าโลมาตัวดังกล่าวนั้นมีความยาวประมาณ 1 เมตร คาดว่าเป็นโลมาปากขวด ที่มีอายุได้ประมาณไม่ถึง 1 ปี สภาพผิวหนังไม่มีบาดแผลใดๆ ท่ามกลางเด็กๆ จำนวนมากที่มามุงดูโลมาตัวดังกล่าวอย่างเสียดาย

นายสายันต์ มุกสิกแก้ว อายุ 31 ปี อยู่ 282/6 ม.8 ต.ปากพูน อ.เมือง ชาวประมงชายฝั่งเปิดเผยว่า พบโลมาตัวนี้เมื่อ 2 วันที่แล้ว มันว่ายเข้ามาจากทะเลเข้ามาในปากน้ำ ดูท่าทางอ่อนเพลีย แต่ไม่มีใครไปทำอะไร เนื่องจากโลมาพวกนี้เป็นสัตว์ที่ชาวประมงพื้นบ้านให้การดูแลและอนุรักษ์ เวลาออกเรือจะออกมาเล่นน้ำข้างเรือเสมอ จนวันนี้มันว่ายน้ำกระเสือกกระสนมาเกยตลิ่ง เด็กๆ จึงลงไปช่วยกันอุ้มแล้วจมเรือไว้ให้เป็นอ่างจากนั้นเอาโลมามาใส่ไว้คอยดูแลได้ไม่ถึง 1 ชม.มันก็เสียชีวิตลงท่ามกลางความเสียใจของเด็ก และชาวประมงย่านนี้ที่พยายามช่วยเหลือ

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ชาวบ้านได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเช่นศูนย์วิจัยสัตว์ชายฝั่งตะวันออก จ.สงขลา มารับโลมาตัวนี้ไปวิเคราะห์หาสาเหตุการตายให้ชัดเจนเนื่องจากพบว่าระยะนี้พบกระแสการเสียชีวิตของสัตว์ประเภทนี้บ่อยครั้งนั่นเอง

ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น: