“เทพไท” แนะจับตาการเลือกซ่อมสุราษฎร์ฯ ใช้เป็นต้นแบบของคนเสื้อแดง เย้ย “บิ๊กจิ๋ว” หากพ่ายแพ้ให้กระโดดแม่น้ำตาปีแทนแม่น้ำโขง วิเคราะห์อนาคตเสื้อแดงต้องการคุมทิศทางเพื่อไทยต่อ แต่หนทางไม่ง่ายเพราะถึงยุคเสื่อม เนื่องจากแม้ปักหลักที่อีสานได้ แต่ก็ยังมีกลุ่มเนวินที่เป็นคู่แข่งสำคัญ และประชาชนบางส่วนนั้นไม่ชอบการจาบจ้างสถาบัน
วันที่ 16 ต.ค.53 นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกตั้งในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ว่า ครั้งนี้เป็นโมเดลของพรรคเพื่อไทยต้องการทำการเมืองภาคใต้ ซึ่งใช้การเลือกตั้งซ่อมของสุราษฎร์ธานีเป็นต้นแบบ ดูจากการคัดตัวผู้สมัครที่ส่งแกนนำคนเสื้อแดงลงเลือกตั้ง และใช้ยุทธวิธีหาเสียงเน้นไปในตลาดคนเสื้อแดงเท่านั้น
“การเลือกตั้งที่สุราษฎร์ธานี แกนนำของพรรคเพื่อไทยคงหวังผลเฉพาะการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์กับการต่อสู้ในลักษณะจ้องจับผิด นายจตุพรบอกว่าจะได้คะแนนซ่อมไม่ต่ำกว่า 50,000 คะแนนเป็นแค่ราคาคุยเท่านั้นหรือการปลุกขวัญกำลังใจในหมู่กลุ่มผู้สนับสนุน รวมไปถึงการประกาศของพลเอกชวลิตที่บอกว่าจะไม่ชนะใน 2-3 อำเภอจะกลับไปโดดน้ำโขงตาย ซึ่งไม่ต้องเลยแค่มารอฟังผลที่สุราษฎร์ธานี เมื่อผลออกไม่ต้องเดินทางไปที่แม่น้ำโขงขอให้มาโดดแม่น้ำตาปี แทนจะดีกว่าไม่ต้องเหนื่อยเดินทางไกล”
นายเทพไท กล่าวต่อว่า อยากให้ กกต.ดูพฤติกรรมของการหาเสียงของแต่ละฝ่ายว่าเป็นไปตามแนวทางในระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ หรือหวังผลทางการเมืองแอบแฝงและต้องตรวจสอบพฤติกรรมการเคลื่อนไหวในเขตพื้นที่ใกล้เคียงหรือพื้นที่รอยต่อมากกว่า ในพื้นที่รับสมัครเลือกตั้งและต้องตรวจสอบเรื่องการเคลื่อนไหวต่อต้านการเลือกตั้งล่วงหน้าว่ามีเจตนาใดแอบแฝงทั้งๆที่ กกต.ประกาศกำหนดชัดเจน ทำไมไม่คัดค้านตอนประกาศมาคัดค้านใกล้เปิดหีบเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นการเคลื่อนไหวในลักษณะบิดเบือนข้อเท็จจริง ใส่ร้าย กกต.หรือไม่
นอกจากนี้ยังกล่าวอีกถึงท่าทีของพรรคเพื่อไทยในการเตรียมการเลือกตั้งว่า ในอนาคตพรรคเพื่อไทยจะมีแกนนำเสื้อแดงเป็นคนมีบทบาทกำหนดความเคลื่อนไหวของพรรค แกนนำมีโอกาสลงพื้นที่มากกว่ากลุ่มอื่นๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคใต้ไม่มีฐานเสียงที่แน่นอนของพรรคนี้ต่างกับภาคอื่น เช่นภาคอีสานพรรคเพื่อไทยประกาศต้องการยึดอีสานหมดทุกที่นั่งโดยแบ่งให้พลเอกชวลิต คุมนครพนม ดึงพลเอกธรรมรักษ์บ้านเลขที่ 111 มาช่วยเสริม ให้พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี ทำพื้นที่ในบุรีรัมย์ อุบลราชธานีให้นายสุพล ฟองงามดูแล
ในส่วนของประชาธิปัตย์ไม่มีผลกระทบเลย อุบลราชธานีเป็นพื้นที่ที่ประชาธิปัตย์ไม่เคยขาดหาย เชื่อมั่นว่าผลสำรวจของพรรคโพลสำนักต่างๆประกอบกับผลงานของรัฐบาลที่เป็นรูปธรรม ผลโพลย์ขึ้นกว่าเดิมนับสิบเท่าประชาธิปัตย์สามารถเพิ่มที่นั่งได้ ส่วนภาคตะวันออกจะใช้ยุทธวิธีแดงชลบุรีเจาะฐานประชาธิปัตย์โดยอ้างจุดอ่อนของเหตุการณ์มาบตาพุดมาโจมตีไม่สามารถเจาะฐานได้เพราะภาคตะวันออกเหนียวแน่น ส.ส.ประชาธิปัตย์มีคุณภาพเกาะติดพื้นที่ปัญหามาบตาพุดเป็นปัญหาเรื้อรังพยายามแก้ทุกวิถีทางให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกันไม่น่าหนักใจ
“จุดขายของภาคอีสานคือ พ.ต.ท.ทักษิณ จุดอื่นๆไม่กล้าเช่นภาคตะวันออกชูคนเสื้อแดง ที่กรุงเทพ พ.ต.ท.ทักษิณ ขายไม่ได้ยิ่งเหลว ภาคกลางไม่เป็นที่ยอมรับภาคเหนือเองคะแนนเสียง พ.ต.ท.ทักษิณ กับประชาธิปัตย์ มีลักษณะก้ำกึ่ง จุดขายมีที่เดียวคืออีสานจุดแข็งคือต้องสู้กับกลุ่มนายเนวิน สิ่งที่โจมตีนายเนวินคือการเนรคุณ จุดอ่อนของ พ.ต.ท.ทักษิณในอีสานคือการทรยศต่อชาติ โดยไปเป็นที่ปรึกษาฮุนเซน การจาบจ้วงเบื้องสูงในนิตยสารไทม์ออนไลน์ที่กระทบกระเทือนจิตใจคนอีสาน คะแนนเสียงที่หนุนเพื่อไทยคงไม่ได้ตามคาดหวังไว้” โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ข้อมูล...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น