กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จัดสัมมนาในหัวข้อเรื่อง โอกาสทางการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุนในอาเซียน และการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการเปิดเสรีการค้าสินค้าเกษตรในอาเซียน กรณีสินค้ายางพารา ปาล์มน้ำมัน ประมง รวมถึงการค้าบริการ และการลงทุนในอาเซียน สู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ทั้งนี้ เพื่อให้เกษตรกร สมาชิกหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช และพื้นที่ใกล้เคียง และผู้ประกอบการ SMEs ได้รับรู้เรื่องแนวทางการเปิดตลาดการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุน ภายในอาเซียน ได้ใช้ประโยชน์จากความตกลงให้เกิดประโยชน์จากความตกลงให้เกิดประโยชน์จากความตกลงการเปิดเสรีอาเซียน เพื่อปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ และนำไปสู่การพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพของเกษตรกรไทย
นายฉัตรชัย เลื่อมประเสริฐ นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ กรมเจรจาการ้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.53 เป็นต้นมา สินค้ากว่า 8,000 รายการ จะมีภาษีเป็น 0% โดยหวังให้ผู้ประกอบการไทยใช้ประโยชน์ เพิ่มโอกาสทางการค้า สินค้าในตลาดอาเซียน และนอกเหนือจากการลดภาษีแล้วยังมีมาตรการที่มิใช่ภาษี เช่น มาตรการสุขอนามัย มาตรการด้านมาตรฐาน การอำนวยความสะดวกทางการค้า และกระบวนการระงับข้อพิพาททางการค้า เป็นต้น
โดยประเทศสมาชิกอาเซียนมีพันธกรณีจะต้องปฏิบัติตามความตกลงที่เรียกว่า ATIGA ซึ่งจะส่งผลให้การค้าภายในอาเซียนมีความโปร่งใส และสามารถคาดการณ์ได้มากขึ้น จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตผู้ส่งออกน้ำเข้าทั้งอาเซียน และผู้ที่สนใจจะทำการค้าและลงทุนในภูมิภาคอาเซียนในอนาคต ที่มุ่งสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในอีก 5 ปี ข้างหน้า
ขอบคุณ...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น